“วีระศักดิ์” เล็งปรับโครงสร้าง ก.ท่องเที่ยวฯ

ทำเนียบฯ 1 ก.พ.-“วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” แจงการทำงานในตำแหน่ง รมว.ท่องเที่ยวฯ เตรียมใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการลดการเหลื่อมล้ำ กระจายให้เกิดรายได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวเมืองรอง ตั้งเป้าหมายปรับโครงสร้างกระทรวงท่องเที่ยวฯ เผยคนไม่พอทำงาน มั่นใจตรุษจีนปีนี้ นักท่องเที่ยวทะลุเป้าแน่นอน


เวลา 14.00 น. นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายกอบศักดิ์  ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงข่าวในงาน Meet the Press หัวข้อ “พูดคุยเก๋ไก๋ สไตล์ รมต.” ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล โดยนายวีระศักดิ์ ได้เล่าถึงหัวใจสำคัญในการเข้ามาทำหน้าที่ และเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องมือในการลดความเหลื่อมล้ำได้ ซึ่งจะมีการจัดวงจรการท่องเที่ยว ให้คนมีส่วนร่วมได้ ทั้งรายการถ่ายทอดสังคมและวัฒนธรรมการเมือง

“อยากให้การท่องเที่ยวรับใช้ชุมชน ไม่ใช่ชุมชนรับใช้ท่องเที่ยว สนใจตัวชี้วัดที่เกิดจากความสุข รอยยิ้มของประชาชน มากกว่ารายได้ต่อหัว” นายวีระศักดิ์ กล่าว


นายวีระศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ครั้งนี้ มีระยะทาง 100 เมตร ให้วิ่ง ดังนั้นสิ่งที่ต้องการทำ คือ 1.การใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการลดการเหลื่อมล้ำ โดยการกระจายให้เกิดรายได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวเมืองรอง และ 2.การปรับโครงสร้างของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่ไม่เคยมีการแก้ไข ตั้งแต่มีการตั้งกระทรวง 15 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการตั้งกระทรวงใหม่ ซึ่งที่มาเป็นการตั้งที่ฉุกเฉิน จากการเมือง จึงไม่รองรับกับภารกิจที่แท้จริง โดยหลังจากนี้จะหารือกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) คณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.)  เกี่ยวกับเรื่องการจัดการโครงสร้าง โดยจะดำเนินการเป็นขั้นตอน 

“แนวทางที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะแยก ระหว่างกระทรวงท่องเที่ยว และกีฬาออกจากัน กีฬาทำได้ง่ายเพราะมีบุคลากร แต่การท่องเที่ยว ไม่มีบุคลากรเฉพาะทาง ที่ผ่านมาไม่เคยสร้าง และการสร้างไม่สามารถทำได้ภายใน 1-2 ปี จากนี้จะมีการบูรณาการความเห็น จากภาคส่วนกลุ่มจังหวัดต่าง ๆ กระบวนการที่ต้องทำ อาจต้องดูตัวอย่างของต่างประเทศ บางประเทศไม่มีกระทรวงท่องเที่ยว แต่มีสำนักงานการดูแลท่องเที่ยวแห่งชาติ ต้องมาทบทวนอย่างรอบด้านในเรื่องนี้” นายวีระศักดิ์ กล่าว

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ได้ทำหนังสือถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอโอนข้าราชการมาช่วยงานที่กระทรงการท่องเที่ยวฯ เพราะขณะนี้มีข้าราชการเพียง 130 คนที่ดูแลงานท่องเที่ยว


“ย้ำว่าไม่เพียงพอ ได้เสนอขอเพิ่มอีก 80 คนก็ยังดี และหากได้เพิ่มมากกว่านี้ก็จะสามารถแบ่งเบางานที่ต้องดูการท่องเที่ยวทั่วประเทศได้ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะเสนอให้แยกงานเรื่องภาพยนตร์ทุกรูปแบบออกจากกระทรวง ให้ไปขึ้นตรงกับกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อความเหมาะสมและผลประโยชน์ของประเทศอย่างแท้จริง แต่เวลาที่เหลืออยู่ ก่อนส่งไม้ต่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีเป้าหมายที่จะยกให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้คนไทยเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง” นายวีระศักดิ์

นายวีระศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2561 มีเป้าหมายโต ร้อยละ 9.5 ขณะที่เป้าหมายสูงสุดของโลก คือ ร้อยละ 10 แต่ตัวเลข 9.5 แม้จะสามารถทำได้อย่างไม่เหนื่อย แต่สิ่งที่ต้องการควบคู่กัน คือ การมีรอยยิ้มของทั้งนักท่องเที่ยว และเจ้าภาพ 

“ในปี 2561 โดยเฉพาะช่วง ตรุษจีน  นักท่องเที่ยวจีนจะสูงขึ้นมากถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะไทยมีการฉลองตรุษจีนได้ยิ่งใหญ่ ไม่แพ้ชาติใด โดยปีนี้ได้กระจายการท่องเที่ยวส่งออกไปยังเมืองรอง ให้เขาได้ออกไปกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เที่ยว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า นโยบายในประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านการเมือง มีผลมากกับความสัมพันธ์ทางการเมืองของไทย-จีน ทำให้เรามีนักท่องเที่ยวจีนมาก แต่การที่รับนักท่องเที่ยวจีนมาก ก็ต้องบริหารจัดการความเสี่ยง ปัญหานักท่องเที่ยวจีนไม่ได้เกิดขึ้นกับไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับอีกหลายประเทศ ซึ่งเราต้องเข้าใจเหตุแห่งปัญหาที่ต้องศึกษา ทั้งการที่เขาถูกปิดกั้นไม่สามารถสื่อสารได้ทางกูเกิ้ล จึงเป็นนักท่องเที่ยวที่อิสระ แต่โตเร็ว ดังนั้นนักท่องเที่ยวจีน มีพฤติกรรมอย่างไร และเราต้องปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกัน ส่วนเรื่องบอลโลก ขอยืนยันว่าคนไทยจะได้ดู อย่างเท่าเทียมแน่นอน” นายวีระศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง