กทม. 22 ม.ค.-ขณะนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับบิทคอยน์ เงินดิจิทัล ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ จับต้องไม่ได้เหมือนธนบัตรทั่วไป แต่ทำไมบิทคอยน์จึงได้รับความนิยม แม้ราคาในช่วงนี้จะดิ่งลงมาก็ตาม
บิทคอยน์คือสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมีการใช้ในโลกไซเบอร์ แม้ว่าบิทคอยน์จะจับต้องไม่ได้ บางประเทศไม่มีกฎหมายรองรับ แต่กระแสความนิยมบิทคอยน์พุ่งไม่หยุด ราคาบิทคอยน์ จาก 8 ปีก่อน เริ่มต้นจาก 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิทคอยน์ พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 19,783 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 600,000 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่คนจำนวนมากอยากจะได้ครอบครองบิทคอยน์ แล้วจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งมี 2 วิธี 1.นำเงินดอลลาร์ ยูโร เยน หรือเงินบาท ลงทุนซื้อบิทคอยน์จากการเทรดออนไลน์ 2.ลงทุนขุดบิทคอยน์ โดยใช้คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดมาแข่งประมวลถอดรหัสในโลกบิทคอยน์ ผู้ชนะจะได้รับบิทคอยน์เป็นรางวัล ซึ่งบิทคอยน์ที่ถูกสร้างขึ้นมา 21 ล้านเหรียญ ปัจจุบันถูกขุดออกมาแล้วกว่า 16 ล้านเหรียญ
กระแสความนิยมบิทคอยน์ในประเทศไทยแม้จะไม่มากเท่ากับสหรัฐ ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ เพราะไทยไม่รองรับว่าบิทคอยน์เป็นเงินที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่สำหรับคนที่สนใจ อย่างกลุ่มบิทคอยน์เซ็นเตอร์ไทยแลนด์ เห็นว่าบิทคอยน์เป็นเงินดิจิทัลที่มีเสน่ห์ และเป็นเงินสกุลอิสระ ที่ไม่ต้องถูกควบคุมโดยธนาคารกลางชาติใด โดยผู้ที่คิดค้นคือ ซาโตชิ นากาโมโตะ ซึ่งเป็นนามแฝง ที่ไม่เคยมีคนเห็นตัวตนมาก่อน หลักการทำงานบิทคอยน์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นตัวกลางในการโอนเงิน โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร และคนในโลกบิทคอยน์ไม่ต้องแสดงตัวตน ใช้แค่เพียงลายเซ็นดิจิทัล หรือรหัส 34 หลัก ก็ทำธุรกรรมการเงินได้เหมือนกับธนาคาร เทคโนโลยีบิทคอยน์และบล็อกเชนจะสามารถพลิกโฉมโลกการเงินในอนาคตได้
ขณะผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนก็มองสอดคล้องกันว่าบิทคอยน์เป็นเงินดิจิทัลที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ตราบที่มีความเชื่อมั่น มีความนิยม และสุดท้ายต้องมีหลักเกณฑ์ดูแล
บิทคอยน์ เงินดิจิทัลของโลก มีข้อควรระวังที่ต้องคิด เพราะการเปิดบัญชีบิทคอยน์ไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตน ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ก็อาจจะเป็นช่องทางให้คนไม่ดีใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายหรือธุรกิจสีเทาได้.-สำนักข่าวไทย