แบงก์ชาติหลายประเทศกังวลผลกระทบหาก “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

Donald Trump and Kamala Harris shake hand in debate

วอชิงตัน 28 ต.ค. – ผู้ว่าการธนาคารกลางของหลายประเทศแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้


รอยเตอร์รายงานว่า ในการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) และธนาคารโลกระหว่างวันที่ 21-26 ตุลาคม 2567 ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วาระการประชุมหลักของผู้ว่าการธนาคารกลางและรัฐมนตรีคลังประเทศต่าง ๆ เป็นเรื่องเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ ภาระหนี้สินสูง และสงครามที่ทวีความรุนแรง อย่างไรก็ดี หัวข้อสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของผู้เข้าร่วมประชุมเกือบทุกกลุ่ม คือ ผลสำรวจล่าสุดที่พบว่า ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันเริ่มมีคะแนนตีตื้นนางคอมมาลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครตที่มีคะแนนนิยมนำในช่วงต้น และหนึ่งในความกังวลของหลายคน คือ ทรัมป์อาจจะพลิกระบบการเงินโลกแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ด้วยการขึ้นภาษีครั้งมโหฬาร ออกพันธบัตรกู้เงินหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และละทิ้งความพยายามแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อสนับสนุนการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล

IMF World Bank Annual Meeting Oct.2024
การประชุมประจำปีไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก

นายคาซุโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ (BOJ) เผยว่า ทุกคนกังวลที่มีความไม่แน่นอนสูงมากว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ และประธานาธิบดีคนใหม่จะดำเนินนโยบายแบบใด ผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศหนึ่งยอมรับโดยขอสงวนนามว่า เริ่มมีความรู้สึกว่าทรัมป์กำลังจะชนะ ขณะที่นายโฮแบร์โต กัมโปส แนโต ผู้ว่าการธนาคารกลางบราซิลชี้ว่า การเดิมพันว่าทรัมป์จะชนะได้ส่งผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของบราซิลแล้ว เนื่องจากบราซิลเป็นเศรษฐกิจที่อ่อนไหวต่อดอลลาร์สหรัฐ และว่านโยบายการคลังของทั้งทรัมป์และแฮร์ริสล้วนแต่จะเพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อ


ด้านนายเมห์เมต ชิมเชค รัฐมนตรีคลังทูร์เคียหรือตุรกีมองว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของทรัมป์จะทำให้สหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณมากขึ้น เท่ากับมีหนี้สินมากขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวสูงขึ้นและดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างแน่นอน ส่วนนายเลเซตจา คันยาโก ผู้ว่าการธนาคารกลางแอฟริกาใต้กังวลเรื่องสงครามการค้าที่เกิดจากการที่ประเทศต่าง ๆ ขึ้นภาษีตอบโต้กัน

IMF Managing Director Kristalina Georgieva
กก.ผจก.ไอเอ็มเอฟ

อย่างไรตาม นางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟมองว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเรื่องที่ชาวอเมริกันจะเป็นผู้ตัดสิน พร้อมกับเตือนให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ เริ่มหาทางลดภาระหนี้สินจำนวนมหาศาลที่ก่อขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ระบาด ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจจะยิ่งขยายตัวต่ำ และจะทำให้ประชาชนยิ่งไม่พอใจ

Donald Trump in 2015

ทรัมป์ประกาศระหว่างการหาเสียงว่า จะขึ้นภาษีนำเข้าร้อยละ 10 กับทุกประเทศ และจะขึ้นถึงร้อยละ 60 กับจีน นอกจากนี้ยังจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยมาตรการทางภาษีมากมาย ตั้งแต่ขยายการลดภาษีเงินได้ส่วนบุคคลทั้งหมดที่เคยลดให้ในปี 2550 ไปจนถึงยกเว้นการเก็บภาษีจากค่าทิป ค่าล่วงเวลา และเงินบำนาญ นักวิเคราะห์ด้านงบประมาณคาดการณ์ว่า นโยบายของทรัมป์จะทำให้สหรัฐมีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 7.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 254 ล้านล้านบาท) ในช่วง 1 ทศวรรษ เพิ่มเติมจากที่สำนักงานงบประมาณรัฐสภาประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้น 22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 744 ล้านล้านบาท) ในช่วง 10 ปีข้างหน้า


Kamala Harris speaks at her residence

แต่หากแฮร์ริสเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ทางการเงินส่วนใหญ่เชื่อว่า เธอจะสานต่อนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กลับมาให้ความร่วมมือในระดับพหุภาคีในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาษีนิติบุคคล การลดภาระหนี้สิน และการปฏิรูปธนาคารด้านการพัฒนา แม้ว่านโยบายหาเสียงของแฮร์ริสจะทำให้สหรัฐมีหนี้สินเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ก็จะน้อยกว่าทรัมป์มาก.-814.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน