กทม. 18 ม.ค.-กระทรวงพาณิชย์เชื่อว่าการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่น่าส่งผลต่อราคาอาหารสดจนเป็นเหตุให้พ่อค้าแม่ค้าปรับขึ้นราคาอาหารสำเร็จรูป หลังลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค พบว่าราคาอาหารสดส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว
ภายหลัง นายอดุลย์ โชตินิสากร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ลงตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้า วันเดียวกับที่บอร์ดค่าจ้างประชุมพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ จากความกังวลใจว่าราคาสินค้าอาจจะปรับขึ้นรับค่าจ้างขึ้นต่ำที่เพิ่มขึ้น จากการตรวจสอบราคาสินค้าที่ตลาดสดยิ่งเจริญ พบว่าราคาอาหารสดส่วนใหญ่ยังทรงตัว เป็นไปตามฤดูกาลและกลไกตลาด มีเพียงเนื้อหมูที่ราคาสูงขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนผักบางชนิด เช่น ผักชีและถั่วฝักยาว ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย เพราะสินค้าเกษตรส่วนใหญ่พึ่งพาแรงงานค่อนข้างน้อย รวมทั้งเชื่อว่าจะไม่กระทบราคาขายปลีกอาหารสำเร็จรูป หลังการปรับค่าจ้างมีผลในวันที่ 1 เมษายนที่จะถึงนี้
ส่วนที่บุรีรัมย์ ผู้ประกอบการยี่ปั๊วและโชว์ห่วยโอดครวญหลังบอร์ดค่าจ้างมีมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยบุรีรัมย์ปรับขั้นมาเป็น 315 บาท จากเดิม 300 บาทต่อวัน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าแรงลูกจ้างที่เพิ่มขึ้น สวนกระแสเศรษฐกิจที่ยอดขายดิ่งลง เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนลดลงต่อเนื่องจากภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้คงที่ แนวโน้มแก้ปัญหาผู้ประกอบการอาจต้องปรับลดจำนวนลูกจ้างลงแทนเพื่อความอยู่รอด ทั้งยังเชื่อด้วยว่าการปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้ อาจยิ่งทำให้แรงงานเสี่ยงตกงานเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย