ครอบครัวเหยื่อเมาแล้วขับเรียกร้องเร่งแก้กฎหมายและตั้งศาลจราจร

.ยุติธรรม 10 ต.ค.-  ครอบครัวเหยื่อเมาแล้วขับ ขอให้กระทรวงยุติธรรมเร่งแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและ พิจารณาตั้งศาลจราจร เพื่อลงโทษผิดกระทำผิดอย่างเด็ดขาด


นายเจษฎา แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพฯ นำ ครอบครัวของ ด.ญ.ภัคจิรา ทับงาม หรือ น้องอิงฟ้า อายุ 4 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนเมาขับรถชนจนเสียชีวิต เมื่อ 27 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า 40 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการออกมาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะเรื่องเมาแล้วขับเพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติ รวมทั้งเรีกยร้องให้มีการจัดตั้งศาลจราจร โดยมีนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่องแทน

 


นายเจษฎา กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับครอบครัวน้องอิงฟ้า และสมาชิกภาคีเครือข่ายในเรื่องปัญหาเมาแล้วขับ โดยภาคีเครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนต่อกระทรวงยุติธรรม ดังนี้ 1.ขอสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรทางบก รวมทั้ง ปัญหาดื่มแล้วขับ และให้กำลังใจเดินหน้าสู่ภาคปฏิบัติที่เป็นจริงโดยเร็ว

2.กรณีเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เครือข่ายขอให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้การเมาแล้วขับเป็นการกระทำผิดมีเจตนาเล็งเห็นผลทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มิใช่เป็นเพียงแค่ความผิดโดยประมาท และสนับสนุนให้เอาผิดกับผู้ที่นั่งมาในรถด้วย โดยขอให้ยกเว้นรถโดยสารสาธารณะ รวมถึง เอาผิดกับร้านอาหาร ผับบาร์ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ประเภทนั่งดื่มที่ร้าน) เพราะถือว่าเป็นการขายให้กับผู้ที่มึนเมาครองสติไม่ได้ ตามความผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และ 3.สนับสนุนให้มีการจัดตั้งศาลจราจรเช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้วเพื่อจัดการกับปัญหาอุบัติเหตุจราจรทางบก ซึ่งนับวันยากต่อการรับมือและทวีความรุนแรงมากขึ้น


นายเจษฎา กล่าวอีกว่า ลำพังการรณรงค์สร้างจิตสำนึกของผู้ใช้รถใช้ถนน ก็ยังไม่สามารถหยุดความสูญเสียได้ ส่งผลให้สถิติการเมาแล้วขับเพิ่มมากขึ้นทุกปี จากการรวบรวมสถิติพบว่าแต่ละเดือนจะมีอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับเกิดขึ้น 72 ราย ขณะที่แต่ละเดือนจะมีผู้พิการจากการเมาแล้วขับ 23 คน และแต่ละเดือนมีผู้เสียชีวิตจากการเมาแล้วขับ 187 ราย ภาพรวมอุบัติเหตุจราจรทางบกสร้างความสูญเสียมากกว่า 200,000 ล้าน ต่อปี ส่งผลให้คนเสียชีวิตโดยประมาณ 26,000 คนต่อปี  ทำให้ไทยติดอันดับ 2 ของโลกที่มีอุบัติเหตุมากที่สุด ทั้งนี้พบว่ามากกว่าร้อยละ 40  สาเหตุมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเกี่ยวข้อง และมีแนวโน้มเกิดสูงขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน เช่นกรณี น้องอิงฟ้า ปัญหาคือไม่มีมาตรการทางนโยบายใดที่เพียงพอในการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้

ด้าน นายธวัชชัย กล่าวว่า ในต่างประเทศกรณีเมาแล้วขับถือว่าเป็น การพยายามฆ่า และมีการนำระบบมีคะแนนการขับรถมาใช้และตัดแต้มหากกระทำผิดจราจรซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ประเทศไทยยังมีการพิจารณาโทษแตกต่างกันไป เป็นไปในลักษณะประมาท โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ทำให้ต้องศึกษาความชัดเจนและมาพูดคุยกัน ส่วนการจัดตั้งศาลจราจรต้องพิจารณาข้อกฎหมายอีกหลายประเด็น ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม พร้อมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมผลักดันกฎหมายมีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง