สั่งทำคดีตรงไปตรงมา เอาผิดไม่เว้นใคร

ทำเนียบรัฐบาล 20 ม.ค.-โฆษกรัฐบาล พร้อมโฆษก ตร. รองปลัดยุติธรรม รองปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ แถลงผลคืบหน้าคดีที่ประชาชนสนใจ ย้ำนายกฯ​ สั่งทำคดีตรงไปตรงมา ไม่เว้นใคร ส่วนที่พาดพิงหลาน​เอี่ยวทุนจีนสีเทา​ แค่การกล่าวอ้าง​ ยัน​เร่งรัดคดีไม่เกี่ยวใกล้เลือกตั้ง


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมแถลงผลการดำเนินงานในส่วนของคดีต่าง ๆ ที่ประชาชนให้ความสนใจ ได้แก่ เครือข่ายธุรกิจกลุ่มทุนจีนสีเทา กรณีโยกย้ายอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ จากคดีเรียกรับผลประโยชน์และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัด และกรณีมอบหมายให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีเครือข่ายธุรกิจกลุ่มทุนจีนสีเทา มีความคืบหน้าไปมาก รวมถึงได้ขยายผลไปยังผู้กระทำความผิด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการว่า หากความผิดสาวไปถึงใครให้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หากพบว่ากระทำผิดจะถูกไล่ออก


“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำงานอย่างเต็มความสามารถ โดยในวันนี้ ทางอัยการได้ส่งสำนวนไปยังศาลแล้ว และหากพบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในคดีนี้ หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการต่อไป” โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว

ด้านนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การดำเนินการทุกอย่างมีอิสระ ตรงไปตรงมา จึงขอให้ทุกคนสบายใจ ซึ่งการสั่งย้ายอธิบดีดีเอสไอ และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อให้การสืบสวนไร้ข้อกังวล รวมถึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย

ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบเหตุการณ์และการกระทำผิดกฏหมายที่เป็นเรื่องสำคัญ อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งนอกจาก 3 คดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ยังมีคดีอื่น ๆ ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ และสั่งการให้รายงานผลความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน เช่น การตรวจสอบการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านแฟลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ซึ่งเป็นอีกคดีหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานให้ทราบ


“นายกรัฐมนตรีไม่ปกป้องความผิดของใครในแต่ละคดี และต้องการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความโปร่งใส ไม่แทรกแซง และให้เกิดความกระจ่างชัดทุกประเด็นในสังคม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจจะแก้ไขปัญหาทุจริตทุกเรื่อง และมีข้อสั่งการมาตลอดเวลาที่ประชุมกับส่วนราชการว่า การดำเนินการของข้าราชการต้องโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ทุกกรณี” นายอนุชา กล่าว

ส่วนที่พาดพิงหลานของนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับคดีกลุ่มทุนธุรกิจจีนสีเทา​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น ยังไม่มีข้อกล่าวหา ซึ่งในส่วนของพนักงานสืบสวนสอบสวนเน้นไปที่ความตรงไปตรงมา หากพบผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเอกชน จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และหากมีหลักฐานชัดเจน อัยการจะดำเนินการต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการกล่าวอ้างหรือพาดพิงใคร แต่เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวนมากกว่า หากพบสิ่งไม่ถูกต้องให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่ต้องเกรงกลัวใครทั้งสิ้น

“การที่นายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งกวาดล้างคดีต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ​ไม่เกี่ยวกับช่วงใกล้เลือกตั้ง เป็นการสั่งการตามนโยบายอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนสนใจ​ อีกทั้งนายกรัฐมนตรี​ต้องการทราบความคืบหน้าการดำเนินการของคดีต่าง ๆ และไม่เกี่ยวว่ามีผู้อื่นนำไปแอบอ้างเป็นผลงานของตัวเอง” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]