กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.60- หัวหน้า คสช.ออกคำสั่งแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองบางมาตรา เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองเริ่มดำเนินกิจกรรมทางธุรการได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประชุมพรรคได้จนกว่าจะมีการปลดล็อกทางการเมือง
โดยวานนี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คำสั่งหัวหน้า คสช. เรื่อง การดําเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หลังนายกรัฐมนตรีลงนามคำสั่งแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองบางมาตรา เพื่อขยายเวลาให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ มีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางธุรการ เช่น การตรวจสอบสมาชิกภาพของสมาชิกพรรค เงินค่าบำรุง และตำแหน่งบริหารต่างๆ ในพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประชุมใหญ่พรรคได้ จนกว่าจะมีคำสั่งปลดล็อกทางการเมือง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เนื้อหาโดยสรุปจะแบ่งกรอบการขยายเวลาต่างๆ เป็น 4 ระดับ คือ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 1 มีนาคม ปีหน้า ช่วงที่สอง 1 มีนาคม – 1 เมษายน ช่วงที่สาม 1 เมษายน เป็นต้นไป และช่วงที่สี่ คือการปลดล็อกพรรคการเมือง ด้วยการยกเลิกประกาศหรือคำสั่ง คสช.ทุกฉบับที่จะเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการเลือกตั้งโดยเสรี
ดังนั้น พรรคการเมืองใหม่จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 มีนาคม ส่วนพรรคการเมืองเก่า 69 พรรค จะเริ่มดำเนินการทางธุรการได้ตั้งแต่ 1 เมษายนเป็นต้นไป ยกเว้นการประชุมใหญ่พรรค ที่ทั้งพรรคเก่าและใหม่จะดำเนินการได้ต่อเมื่อปลดล็อกทางการเมืองแล้ว แต่หากพรรคใดมีความจำเป็นเร่งด่วน สามารถยื่นขอเป็นกรณีพิเศษกับทาง คสช.ได้
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ออกมาว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่ผู้มีอำนาจควรคิดให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง โดยเฉพาะกรณีกำหนดให้สมาชิกพรรค ต้องกลับมายืนยันตัวตนใหม่ ยื่นหลักฐานใหม่ เสียค่าบำรุงสมาชิกใหม่ เหมือนเป็นการเซ็ตซีโร่สมาชิกพรรคการเมือง จึงต้องย้อนถาม คสช.และรัฐบาลว่า การออกคำสั่งเช่นนี้ต้องการอยู่ต่อ หรือต้องการช่วยเหลือพรรคการเมืองใดหรือไม่
เช่นเดียวกับ นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า คำสั่ง คสช.ฉบับดังกล่าว ไม่ใช่การคลายล็อกพรรคการเมือง แต่ถือเป็นการเซ็ตซีโร่สมาชิกพรรค ที่จะต้องให้สมาชิกมาสมัครใหม่ในเวลาที่กำหนด เป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับประชาชนที่จะมีส่วนร่วมในการปฏิรูปพรรคการเมืองใหม่.-สำนักข่าวไทย