มติ ก.ตร.ชี้คำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมาย

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – ที่ประชุม ก.ตร. มีมติ 12 ต่อ 0 เห็นชอบตามมติอนุฯ ก.ตร.วินัย ชี้คำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย


พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงกรณีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฏิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือไม่ ใน 2 คำสั่ง คือ คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 177/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.67 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคำสั่ง ตร.ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.67 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งทั้ง 2 กรณี ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบตามอนุฯ ก.ตร. ที่อนุฯ ก.ตร.วินัย เสนอว่า การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 กำหนดแล้ว

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า สำหรับกรณีที่การพิจารณายกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งนั้นไม่อยู่ในอำนาจของ ก.ตร. แต่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ที่ประชุมจึงมีมติพร้อมทั้งผู้ที่ร้องได้ใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนดต่อองค์กรดังกล่าวแล้ว จึงให้ผู้ร้องรอการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. ต่อไป


“ที่ประชุมมีมติเห็นชอบและไม่มีผู้คัดค้าน โดยในที่ประชุม ก.ตร. มาประชุมทั้งหมด 13 ท่าน จาก 15 ท่าน มี 2 ท่าน ลาการประชุมและไปราชการ โดยอยู่ในการประชุมเพื่อพิจารณาลงมติ 12 ท่าน ซึ่งไม่มีผู้ใดคัดค้าน ที่ประชุมจึงถือว่าให้ความเห็นชอบต่อการประชุม” พล.ต.ท.อนุชา กล่าว

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของกรณีที่มีผู้ที่คัดค้าน หรือกรณีที่คณะกรรมการท่านใดที่เห็นว่าตนมีสภาพที่ทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลาง ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองทุกประการ ทั้งนี้ มติที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นชอบว่า การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์แล้ว โดยคณะอนุฯ ก.ตร. มี 19 ท่าน ไม่ได้อยู่ในปฏิบัติหน้าที่ มีประชุม และอยู่ลงมติ 15 ท่าน โดยมีมติเห็นชอบด้วย 14 ท่าน

สำหรับ ก.พ.ค.ตร. จะมีระยะเวลาพิจารณาตามที่กฎหมายกำหนดใน 120 วัน และขอขยายได้อีก 2 ครั้ง ขณะนี้อยู่ในระหว่าง 120 วันแรก น่าเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในกำหนด


พล.ต.ท.อนุชา กล่าว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งและมีการร้องขอให้ ก.ตร. ในฐานะองค์กรที่มีอำนาจกำกับดูแลเรื่องการบริหารงานบุคคล พิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือไม่ และมีการมอบหมายให้อนุฯ ก.ตร.วินัย พิจารณาและเสนอ ซึ่งอนุฯ ก.ตร. พิจารณา 2 ครั้ง แล้วเสนอขึ้นมา โดยมีความเห็นว่า การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปโดยถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว และ ก.ตร. ก็มีมติโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน คือเห็นชอบตามที่อนุฯ ก.ตร.วินัย เสนอ ดังนั้น การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการบริหารงานบุคคลทั้ง 2 คำสั่ง ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว

ส่วนมติในที่ประชุม หากพิจารณาแล้วเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ทั้งผู้ร้อง หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ถ้าพิจารณาแล้วเกี่ยวข้องจะส่งมติไปให้ทุกหน่วย

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของประธาน ก.ตร. และการให้ที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างครบถ้วน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยให้ยึดถือตามกฎหมายและระเบียบ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญลงมาจนกระทั่งถึงกฎหมายระดับอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง

ส่วนเรื่องการเพิกถอนคำสั่ง คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครอง การเพิกถอนคำสั่งในชั้นของฝ่ายบริหารอยู่ในอำนาจของ ก.พ.ค.ตร. ในชั้นของตุลาการอยู่ในอำนาจของศาล

สำหรับ ก.ตร.ทั้งหมดมีจำนวน 15 คน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รอง ผบ.ตร. ลาประชุม ทำให้ที่ประชุมเหลือเพียง 13 คน ขณะพิจารณาวาระของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินออกจากห้องประชุม เนื่องจากเป็นผู้ที่ลงนามในคำสั่ง ถือว่ามีส่วนได้เสีย ทำให้เหลือ ก.ตร. 12 คน โดยมี 1. นายเศรษฐา ในฐานะประธาน 2. น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. 3. นายปิยะวัฒน์ ศิวะรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. 4. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ 5. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. 6. พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. 7. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. 8. นายประทิต สันติประภพ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 9. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 10. นายศุภชัย ยาวะประภาษ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 11. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 12. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนการประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เรียกรอง ผบ.ตร.ทุกคน มาพูดคุยกันนอกรอบ ที่ห้องรับรองคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ บริเวณชั้น 1 อาคาร 1 ตร. จากนั้นเวลา 15.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง โดยก่อนเริ่มการประชุม นายกฯ ได้เรียก พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าพบที่ห้องรับรองพรหมนอก

ต่อมาเวลา 17.45 น. นายกฯ เดินทางกลับ แจ้งว่าให้เลขานุการที่ประชุม ก.ตร. แถลงผลการประชุม โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เดินลงมาส่ง และแจ้งว่าการประชุมยังไม่เสร็จ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ธานินทร์ กรัยวิเชียร” อดีตนายกฯ-องคมนตรี ใน ร.9 ถึงแก่อสัญกรรม

อาลัย “ธานินทร์ กรัยวิเชียร” อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 ถึงแก่อสัญกรรม สิริอายุ 97 ปี

อุตุฯ เผย 24-25 ก.พ.68 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน-พายุฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. 68 ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก จะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย