ทบทวนคณะ กก. ที่ คสช.ตั้ง ไม่จำเป็นให้ยกเลิก

ทำเนียบฯ 13 ก.ย.-โฆษกรัฐบาล เผย ครม.จ่อทำประชามติให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ รธน. ย้ำหลักการเว้นหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ นายกฯ สั่งทบทวนคณะกรรมการที่ คสช.แต่งตั้ง ถ้าไม่แจ้งความจำเป็นต้องมีภายใน 9 ต.ค. ให้ยกเลิก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีป้ายแดง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนัดแรก โดยแนะนำตัวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งให้สัมภาษณ์และแถลงข่าวครั้งแรกหลังเข้ามามีชีวิตงานการเมือง 1 ปี  โดยการประชุมครม.วันนี้ (13 ก.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการจัดตั้งคณะจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีหน้า เพื่อให้สมพระเกียรติและขอให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยมอบหมายให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาความเห็นต่างเรื่องรัฐธรรมนูญ ในหลักการคณะรัฐมนตรีมีนโยบายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งการแก้ไขจะต้องเป็นไปตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ที่พรรคเพื่อไทยเคยยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้แล้วซึ่งผ่านสภาไป 2 วาระแล้ว แต่ไปติดที่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญว่าให้เอากลับไปฟังเสียงประชาชนก่อน ดังนั้น ในรอบนี้จึงจะต้องทำประชามติซึ่งต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นว่าประชามติจะต้องถามเรื่องอะไรบ้าง ไม่ใช่คิดเอง แต่ต้องเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม เมื่อได้แนวทางแล้วจะจัดทำประชามติเพื่อไปสู่การแก้ไขและธรรมนูญแต่ต้องเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยมีหลักการ ไม่แก้หมวดเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์

“ส่วนเรื่องการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบกำหนดเงื่อนไขแนวทางรายละเอียดและนำกลับมาเสนอในที่ประชุม ครม. โดยเร็วอาจจะเป็นการประชุมครั้งหน้าเลยก็ได้ โดยนายเศรษฐาย้ำว่าเป็นเรื่องนี้ประชาชนรอความชัดเจนอยู่ และที่สำคัญการอภิปรายสองวันในรัฐสภา มีคำแนะนำติติงมาจากหลายฝ่าย ที่ท้วงติงเรื่องแหล่งที่มาของเงิน และรัฐบาลน้อมรับนำกลับมาทบทวนว่าแนวทางเดิมที่เคยคิดไว้ และควรจะศึกษารายละเอียดให้รอบคอบเป็นการตอบสนองต่อคำท้วงติงของสมาชิกรัฐสภาเมื่อวานนี้” นายชัย กล่าว


“นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงไปดูมติ ครม. ของรัฐบาลที่ผ่านมาที่ได้ตั้งคณะกรรมการ 178 ชุด ถ้ากรรมการชุดใดไม่มีความจำเป็นหรือข้อเสนอที่ดีว่า ทำไมต้องมีคณะกรรมการชุดนั้นให้ยกเลิกทั้งหมด โดยให้รายงานกลับมาภายใน 25 กันยายนนี้ รวมถึงให้กระทรวง ทบวง กรม ไปทบทวนว่า คณะกรรมการใดที่ถูกตั้งโดยใช้อำนาจ คสช. ยังมีอะไรที่จำเป็นต้องคงไว้หรือไม่ โดยให้เสนอกลับมาภายในวันที่ 9 ต.ค. นี้ หากไม่เสนอมาถือว่ายกเลิกทั้งหมด” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าหากต้องยกเลิกคำสั่งคสช. นายกฯ จะใช้อำนาจอะไรในการยกเลิก หรือต้องออก พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช. นายชัย กล่าวว่า มติ ครม.ก็ยกเลิกได้ ตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าใช้มติ ครม. ยกเลิกคำสั่ง คสช. เช่น ม.44 ได้เลยหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำสั่งอะไรก็ตามของ คสช. และ ครม. ต้องส่งกลับมาภายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ หากไม่เสนอมาใหม่ว่าจะขอใช้ต่อให้มีผลยกเลิกทันที ซึ่งเป็นกลไกที่มีอยู่แล้ว


เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นข้อสั่งการของนายก หรือเป็นมติ ครม. โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นข้อสั่งการ เพราะข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีคือมติ ครม. และเท่ากับมติ ครม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายชัยระบุดังกล่าวทำให้สื่อมวลชนอึ้ง เนื่องจากคำสั่ง คสช. อยู่ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ซึ่งการจะแก้ไข ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออก พ.ร.บ. เพื่อยกเลิก

เมื่อถามถึงรายละเอียดการงบประมาณที่จะใช้ในการลดราคาพลังงาน ค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะบริหารจัดการเรื่องภาษีสรรพสามิต เงินอุดหนุน  ค่าเอฟที แต่การลดค่าไฟฟ้า ครม. ไม่มีอำนาจ คนที่มีอำนาจคือคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน แต่การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนำมาเสนอให้ ครม. รับทราบ ซึ่ง ครม. ไม่ท้วงติงและเห็นด้วย เพราะฉะนั้นคำตอบคือการบริหารต้นทุนต่างๆ ที่อยู่ในโครงสร้างพลังงาน ใช้การบริหารจัดการในกลุ่มนั้น ส่วนเงินจะใช้เงินสนับสนุนของรัฐบาลหรือไม่คือไม่ควักออกเพิ่ม อาจจะของเดิมที่เคยเก็บเยอะอาจจะเก็บน้อยลงและขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด

“ในที่ประชุมบอกว่าหากมีคำถามจากสื่อมวลชนขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้ชี้แจง และเวลาที่สื่อมวลชนสงสัยอะไรให้แถลงมติ เวลาเจอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ท่านไปเจาะได้เลย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะอธิบายได้ละเอียดเพราะท่านเป็นคนทำมาเสนอ“ โฆษกรัฐบาล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามกลับว่า ถ้าจะให้คุยกับรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือหน่วยงานก็ให้เอารัฐมนตรีมาแถลงจะได้ชัดเจน ประชาชนกำลังรอเรื่องการลด ค่าไฟค่าน้ำมัน ว่าจะลดลงเท่าไหร่ และจากกระทบกับภาษีของประชาชนมากน้อยแค่ไหน ภาระของประเทศจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน อันนี้คือสิ่งที่สื่อต้องการ ไม่ใช่ให้กลับไปถามรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาล จึงบอกว่า ที่ท่านพูดมาว่าประชาชนอยากรู้ว่าค่าไฟ ค่าน้ำมันลดเท่าไหร่ มติครม. ชัดเจนอยู่แล้วว่า ลดหน่วยละเท่าไหร่ ซึ่งผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า สื่ออยากรู้ว่า ภาระที่ลูกหลานต้องใช้ในอนาคต เป็นสิ่งที่ประชาชนก็ต้องการรู้ด้วย.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”