กทม.22 ธ.ค.-กทม.กำชับทุกสำนักงานเขต เข้ม 4มาตรการในช่วงเทศกาลปีใหม่2561 ‘ป้องกันอัคคีภัย-ลดอุบัติเหตุทางถนน-ดูแลความปลอดภัย-ด้านสุขภาพอนามัย’
พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำคณะผู้บริหาร กทม.พร้อมด้วยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานเขตปทุมวัน ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยภายในห้างสรรพสินค้า บริเวณโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น7และลานจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์พร้อมแนะนำเจ้าของ หรือผู้ครอบครองอาคารสถานบันเทิง สถานบริการ เตรียมความพร้อมป้องกันอัคคีภัยและสาธารณภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2561
พล.ต.ท.ชินทัต กล่าวว่า กทม.ได้กำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยและกำชับให้สำนักงานเขต ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ภายใต้ 4 มาตรการ คือ 1.มาตรการป้องกันอัคคีภัย ตรวจสอบสถานที่ที่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นประจำ และจุดเสี่ยง ที่อาจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ อาทิ สถานบริการ สถานบันเทิง อาคารสูง บริเวณใต้สะพานข้ามทางแยกต่าง ๆ เป็นต้น รวมทั้งจัดทำแผนในการเข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นอีก
2.มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายใต้สโลแกน “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” กระตุ้นเตือนจิตสำนึกให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ เดินทางอย่างปลอดภัย
3.มาตรการดูแลความปลอดภัย บริเวณสถานที่จัดงานเทศกาลปีใหม่ ตรวจสอบความปลอดภัยบริเวณสถานที่จัดงานต่าง ๆ
4.มาตรการทางด้านสุขภาพอนามัยโดยตรวจสอบสิ่งของในกระเช้าของขวัญตามห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ ว่ามีสิ่งของ หรืออาหารที่ใกล้หมดอายุมาจำหน่ายให้กับประชาชนหรือไม่
ทั้งนี้ กทม.ได้เตรียมรถดับเพลิงและกู้ภัย รถหน่วยแพทย์กู้ชีวิต พร้อมเจ้าหน้าที่ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักการแพทย์ หน่วยทหาร ตำรวจและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในเขตพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังครอบคลุมทั่วกรุงอีก 35 จุด เพิ่มเติมจากสถานีดับเพลิงหลัก 35 สถานี และสถานีดับเพลิงย่อยอีก 12 สถานี รวมเป็น 82 จุด พร้อมทั้งจุดบริการประชาชนบริเวณถนนเข้า – ออกเมือง เพื่อบริการตรวจสอบสภาพรถให้ประชาชนฟรี ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2561
นอกจากนี้ยังจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ กทม.ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ตลอดจนติดตามการป้องกันการเกิดอัคคีภัยและสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ กทม.อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุสาธารณภัย เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทางโทรศัพท์สายด่วนหมายเลข 199 และ 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย