ปตท.สผ.ประกาศแผนลงทุน 5 ปี 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ

กรุงเทพฯ  19 ธ.ค. – ปตท.สผ.ประกาศแผนลงทุน
5 ปี 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเมินเบื้องต้นยอดขายปิโตรเลียมลดลง
หากไม่ชนะการประมูลแหล่งบงกช


นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม  (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นชอบแผนการดำเนินงาน
5 ปี  ช่วงปี
2561 2565 รวม 15,549 ดอลลาร์สหรัฐ
โดยแยกเป็นรายจ่ายลงทุน
(Capital Expenditure) 8,980
ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายจ่ายดำเนินงาน
(Operating Expenditure) 6,569 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รวมประมาณการรายจ่ายในการพัฒนาโครงการโมซัมบิก
โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ โครงการเวียดนาม บี
และ 48/95 และเวียดนาม 52/97 และโครงการคอนแทร็ค
4 (แหล่งอุบล)
ซึ่งโครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย
(Final
Investment Decision) และส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการผลิตหลังปี 2565 ยกเว้นโครงการแอลจีเรียฯ
เฟสแรกจะเริ่มผลิตปี 2562 และเต็มโครงการปี 2565 ซึ่งบางปีมีการลงทุนเพิ่มและบางปีก็ลดลงจากแผนเมื่อปีที่แล้ว    

     หน่วย : ล้านดอลลาร์ สรอ.


 


ปี
2561

ปี
2562

ปี
2563

ปี
2564

ปี
2565

ปี
2561-2565

รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) 

1,771

1,717

2,071

1,935

1,486

8,980

รายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure)                                     

1,332

1,252

1,201

1,223

1,561

6,569

รายจ่ายรวมทั้งสิ้น (Total
Expenditure)                     

3,103

2,969

3,272

3,158

3,047

15,549

 

สำหรับแผนงานดังกล่าว ปตท.สผ. คาดการณ์ตัวเลขประมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวัน
จากโครงการปัจจุบัน ซึ่งยังไม่รวมปริมาณการขายในกรณีที่บริษัทชนะการประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุในอ่าวไทยและการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม
ระหว่างปี
2561 2565
ดังรายละเอียดต่อไปนี้

                                                                                                                                       หน่วย : พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

                                               

ปี 2561

ปี 2562

ปี 2563

ปี 2564

ปี 2565

ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย            

302

299

283

276

239

 

สำหรับปี 2561 จะเน้นการลงทุนตามภูมิภาค ดังนี้  1.โครงการในประเทศไทย
เป็นสัดส่วน เงินลงทุนร้อยละ
59
เพื่อรักษาระดับปริมาณการผลิต โครงการหลักสำคัญ ได้แก่ โครงการบงกช โครงการอาทิตย์
โครงการเอส
1 โครงการคอนแทร็ค 4
และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
 2. โครงการในประเทศอื่น
ๆ ในอาเซียน เป็นสัดส่วน
ร้อยละ 32 ส่วนใหญ่ลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิตในเมียนมาร์ ได้แก่ โครงการซอติก้า โครงการยาดานา และโครงการเยตากุน รวมถึงรายจ่ายสำหรับการสำรวจ
(Exploration) ในโครงการเมียนมาร์ เอ็มโอจีอี 3 และโครงการเมียนมาร์ เอ็ม 11 และ 3.โครงการในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ออสเตรเลีย
แอฟริกา อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
มีประมาณการรายจ่ายลงทุนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ
9 โดยกิจกรรมสำคัญส่วนใหญ่เพื่อการดำเนินงานในโครงการพีทีทีอีพี
ออสตราเลเชีย รวมถึงรายจ่ายพัฒนาโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน
ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย
(Final Investment
Decision) 

“รายจ่ายในการสำรวจ (Exploration)
ปี 2561 นั้น อยู่ที่ประมาณ 232 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายในการขุดเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลสำหรับโครงการในไทย
เมียนมาร์ มาเลเซีย และออสเตรเลีย รวมถึงการสำรวจคลื่นไหวสะเทือนทางธรณีวิทยาและการศึกษาทางธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์”
นายสมพร กล่าว

นายสมพร กล่าวว่า บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการเพิ่มปริมาณสำรองและปริมาณการผลิต
เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต โดยมอ
งหาโอกาสในการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งจากการเข้าซื้อกิจการ การประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุในอ่าวไทยและการเข้าร่วมประมูลแปลงสำรวจในโครงการใหม่
ๆ ในภูมิภาคที่มีศักยภาพ รวมถึงการเร่
งพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย
โดยคาดว่าจะมีปริมาณการผลิตส่วนใหญ่เข้ามาหลังจากปี 2565 เป็นต้นไป นอกจากนี้
บริษัทยังคงมุ่งเน้นการรักษาระดับต้นทุนโดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน. – สำนักข่าวไทย

 

 

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วน “เหนือ กลาง ตะวันออก” มีฝนตกบางแห่ง อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”