อีอีซี เร่งขับเคลื่อนแผนลงทุนระยะ 2 ตั้งเป้าเกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.- ปี 2565 อีอีซี เร่งขับเคลื่อนแผนลงทุนระยะ 2 ตั้งเป้าเกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท จากการต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน การดึงดูดการลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างต่อเนื่อง


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 1/2565 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้รับทราบ และพิจารณาความก้าวหน้า การดำเนินงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

1.ก้าวสู่ปีที่ 4 อีอีซี ดึงเงินลงทุนแล้ว 1.7 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนไทยสู่ประเทศรายได้สูง ยกระดับชีวิตประชาชนดีขึ้น ที่ประชุม กพอ. รับทราบ ภาพรวมการดำเนินงาน ประโยชน์ประเทศและประชาชนได้รับจาก อีอีซี ดังนี้ ปี 2561 – 2564 ถือเป็นช่วงวางเสาเอก หรือ เริ่มต้นมี พ.ร.บ. อีอีซี ถึงแม้ใน 2 ปีหลังจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่อีอีซี ได้อนุมัติการลงทุนแล้วประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท (การลงทุนภาคเอกชน 80% และภาครัฐ 20%) เกิดจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 654,921 ล้านบาท ลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายประมาณ 924,734 ล้านบาท และบูรณาการเชิงพื้นที่ประมาณ 82,000 ล้านบาท


ทั้งนี้ หลังจากเกิด อีอีซี ทำให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมที่สำคัญๆ ได้แก่
• เกิดการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี เฉลี่ยสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2559 (ก่อนมี อีอีซี) ที่มีมูลค่าลงทุน 1.7 แสนล้านบาท (คิดจากมูลค่าการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนของ BOI)
• เกิดสัดส่วนการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ต่อประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 52% จาก 36% ก่อนมี อีอีซี
• เกิดการลงทุนตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปี 2561 เพิ่มขึ้นถึง 59% (ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์สงครามการค้า Trade war และโควิด-19 ในช่วงปี 2562-ปัจจุบัน)
• เกิดการริเริ่ม พัฒนาทักษะบุคลากร สร้างคนตรงกับงาน (อีอีซี โมเดล) ให้คนมีงานทำเพิ่มขึ้นถึง 14,467 คน พร้อมมีแผนขยายผลผูกพันเพิ่มเติมอีกกว่า 150,000 คน
• เกิดความร่วมมือกับสถาบันการเงินของรัฐ เสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ ชุมชนคนพื้นที่ เข้าถึงแหล่งเงินทุนฟื้นฟูกิจการคลายผลกระทบช่วงโควิด-19 โดยได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อธุรกิจประชาชนไปแล้ว 7,672 ราย คิดเป็นมูลค่า 1,052.7 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการขนาดรายเล็ก 1,359 ราย คิดเป็นมูลค่า 1,986.8 ล้านบาท
• เกิดการพัฒนาและยกระดับชีวิตชุมชนครบมิติ อาทิ เกิดแผนเกษตรสมัยใหม่ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ดี มั่นคง ใช้เทคโนโลยีผลิตสินค้าตรงความต้องการของตลาด ส่งเสริมการลงทุนศูนย์บริการจีโนมิกส์ในอีอีซี รักษาตรงจุด เข้าถึงได้ทุกคน แผนการพัฒนาท่องเที่ยว NEO Pattya สร้างเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืน เสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ ชุมชน คนพื้นที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนต่อยอดกิจการคลายผลกระทบช่วงโควิด-19 เป็นต้น
เปิดศักราชใหม่ ปี 2565 อีอีซี เร่งสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ขับเคลื่อนแผนลงทุนระยะ 2 อีอีซี (ปี 2565-2569) ตั้งเป้าเกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท จากการต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน 2 แสนล้านบาท ดึงดูดการลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ต่อยอดจากฐานปกติ และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ปีละ 4 แสนล้านบาท เพื่อให้เกิดการลงทุนนวัตกรรมใหม่เคียงคู่สิ่งแวดล้อม รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตขึ้น (GDP) 5% ต่อปี มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการของไทยมีมูลค่าสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ จะเกิดการพลิกโฉมการศึกษาพัฒนาทักษะบุคลากรโดยเฉพาะด้านดิจิทัล ที่จะสร้างตำแหน่งงานใหม่ รายได้มั่นคง

โดยปี 2572 อีอีซี ตั้งเป้าหมายสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงจากฐานราก ให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ก้าวสู่ประเทศพัฒนา รวมทั้งยกระดับคุณภาพชุมชนในมิติต่างๆ ต่อเนื่อง สร้างรายได้ที่มั่นคง สร้างชุมชนที่มั่งคั่ง ให้กับคนไทย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้งเป็นองค์กรต้นแบบการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษทั่วประเทศในอนาคตต่อไป

  1. ก้าวสู่ปีเสือทอง 4 โครงสร้างพื้นฐานเดินหน้าก่อสร้าง ใช้เงินไทย ใช้บริษัทไทย ใช้คนไทย ร่วมสร้างประเทศไทย รัฐได้ผลตอบแทน 2 แสนล้านบาท ที่ประชุม กพอ.รับทราบความก้าวหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลัก ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำคัญของอีอีซี ที่ได้ผลักดันการลงทุนร่วมรัฐ-เอกชน (PPP) จนสำเร็จครบ และต่อจากไตรมาส 1 ปี 2565 นี้ ทุกโครงการ (รถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง) จะสามารถเดินหน้าก่อสร้างได้ตามแผนทั้งหมด นับเป็นต้นแบบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่ไม่ต้องพึ่งพิงเงินกู้ต่างประเทศเช่นในอดีต รัฐได้ประหยัดงบประมาณ
  2. 4 โครงสร้างพื้นฐานหลักใน EEC เงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท รัฐได้ผลสุทธิกว่า 2 แสนล้านบาท
  3. เดินหน้าศูนย์จีโนมิกส์ เสริมแกร่งสาธารณสุข คนไทยได้รักษาโรคแม่นยำ สุขภาพดีทั่วหน้า

ที่ประชุม กพอ. รับทราบความก้าวหน้าโครงการพัฒนาศูนย์บริการทดสอบการแพทย์จีโนมิกส์ ในพื้นที่ อีอีซี ยกระดับให้ชุมชนเข้าถึงบริการสาธารณสุข และแผนการขับเคลื่อนการรักษาแบบการแพทย์แม่นยำ โดยเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ศูนย์บริการจีโนมิกส์ในอีอีซี และบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ สกพอ. ได้ลงนามในสัญญาจ้าง และสัญญาเช่าที่บริการถอดรหัสพันธุกรรม กับกิจการร่วมค้าไทยโอมิกส์ เพื่อถอดรหัสพันธุกรรมประชาชน 50,000 ราย ในระยะเวลา 5 ปี และจัดเก็บเป็นข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยและเลือกการรักษาโรคที่ถูกต้อง เป็นต้นแบบในพื้นที่ อีอีซี เพื่อให้คนไทยทุกคน ได้รับการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ รักษาได้ตรงอาการ และมีสุขภาพดี.-สำนักข่าวไทย


โดยในช่วงท้ายของการแถลงข่าว เลขาธิการ อีอีซี ยังเผยถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงและรวดเร็วว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในอีอีซี เนื่องจากอัตราการเจ็บป่วยไม่รุนแรง และประเทศไทยได้จัดให้มีการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ซึ่งขณะนี้เป็นการรณรงค์ให้ประชาชนบูทวัคซีน ซึ่งจะช่วยให้อาการของโรคไม่รุนแรง-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]