กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วางมาตรการคุมเข้มจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมผ่อนผันให้นั่งท้ายรถกระบะได้แต่ขอให้เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่ถูกยึดรถ แต่กฎหมายไม่ให้ขับต่อจนกว่าจะปฏิบัติถูกต้อง
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 พร้อมเปิดเผยว่าตำรวจกวดขันวินัยจราจรในช่วงปีใหม่อย่างเข้มงวด หวังลดอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด ซึ่งปีใหม่นี้ ยังคงมีการผ่อนผันไม่จับกุมการนั่งท้ายรถกระบะ ยกเว้นมีการกระทำไปในทางที่ส่อให้เกิดอันตราย ก็จำเป็นจะต้องตักเตือนและดำเนินคดี พร้อมบังคับใช้มาตรการยึดรถผู้เมาแล้วขับ เหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ / ส่วนมาตรการสวมหมวกนิรภัย 100% จะนำร่องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในพื้นที่ นครบาลก่อน เริ่มบังคับใช้จริงจังในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ หากตำรวจตั้งด่านตรวจพบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่สวมหมวกนิรภัย จะว่ากล่าวตักเตือนและไม่อนุญาตให้ขับขี่ต่อ จนกว่าผู้ขับขี่จะหาหรือนำหมวกนิรภัยมาสวมใส่ โดยมาตรการนี้มีการระบุไว้ในกฏหมายอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2522 ยืนยันตำรวจไม่มีอำนาจยึดรถผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย แต่หากมีเหตุให้สงสัยว่าผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายในข้อหาอื่น ตำรวจสามารถใช้ดุลพินิจในการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ไว้ เพื่อทำการตรวจสอบได้
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวถึงการใช้ใบสั่งรูปแบบใหม่ ที่เริ่มใช้วันแรกเมื่อวานนี้ (17 ธ.ค. 60) ว่ายังไม่พบปัญหาข้อร้องเรียนจากประชาชนแต่อย่างใด โดยยืนยันว่าใบสั่งรูปแบบใหม่ เหมือนใบสั่งเดิม เพียงเพิ่มบาร์โค้ด และภาษาอังกฤษ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบในระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมสั่งให้ยกเลิกการใช้ใบสั่งรูปแบบเดิมทั้งหมดแล้ว ดังนั้นหากยังมีตำรวจพื้นที่ใด นำใบสั่งรูปแบบเดิมมาใช้ จะถือว่ามีความผิด และประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ทันที.-สำนักข่าวไทย