ราคาประเมินที่ดินใหม่เริ่มใช้ 1 ม.ค.61

จ.กาญจนบุรี 18 ธ.ค. – กรมธนารักษ์ประกาศราคาประเมิน 1 ม.ค.61 สูงสุดย่านสีลม 1 ล้านบาทต่อตารางวา พร้อมผลักดันโครงการลงทุนบนที่ราชพัสดุ 90,000 ล้านบาทในปี 61


นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์  เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมธนารักษ์ทำการประเมินราคาที่ดินรายแปลงครบทั้งหมด 32 ล้านแปลง เตรียมประกาศบังคับใช้เพื่อเป็นราคาอ้างอิงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561  ราคาปรับเพิ่มสูงสุด คือ ทำเลย่านสีลมราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวา ต่ำสุด คือ ทำเลบริเวณเขตบางขุนเทียน แถวคลองโล่ง ราคา 500 บาทต่อตารางวา ส่วนต่างจังหวัด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ราคามาแรงขยับเพิ่มเป็น 400,000 บาทต่อตารางวา บริเวณถนนประชาธิปัตย์ ส่วนราคาต่ำสุดแถวโคกเจริญ จ.ลพบุรี ราคา 20 บาทต่อตารางวา 

สำหรับราคาประเมินที่ดินทั้งหมดจะใช้อ้างอิงจัดเก็บภาษีดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากเบื้องต้นกำหนดขั้นต่ำจัดเก็บภาษีจากราคาบ้านไม่เกิน 20 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี เริ่มจัดเก็บปี 2562 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้กรรมาธิการการเงินการคลังฯ สนช.และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นและสำรวจข้อมูลจากกลุ่มต่าง ๆ เพิ่มในการพิจารณาจัดเก็บภาษีที่ดินฯ  หลังจากร่างเดิม แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ที่ดินเพื่อการเกษตรมีเพดานภาษีร้อยละ 0.2 และยกเว้นเก็บภาษีที่ดินมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท จัดเก็บสัดส่วนลดลงเมื่อราคาบ้านสูงขึ้นตามสัดส่วนที่กำหนด  ประเภทที่ 2 เป็นที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเพดานภาษีร้อยละ 0.5 เว้นภาษีบ้านหลังแรกมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท  ราคาเกิน 20 ล้านบาทจัดเก็บร้อยละ 0.05 ประเภทที่ 3 ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ และประเภทที่ 4 ที่ดินว่างเปล่า กำหนดเพดานภาษีไม่เกินร้อยละ 2 โดยมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท เสียภาษีร้อยละ 0.3 เมื่อต้องทบทวนอัตราการจัดเก็บใหม่ จากการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพิ่ม เพื่อต้องการปรับสัดส่วนการจัดเก็บให้ตรงกับข้อมูลอย่างรอบด้าน 

นางสาวอมรรัตน์ กล่ำพลบ รองอธิบดีกรมธนารักษ์  เปิดเผยว่า แนวทางการพัฒนาที่ราชพัสดุปี 2561 วงเงินประมาณ  90,000 ล้านบาท เพื่อต้องการผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมหลายโครงการ ประกอบด้วย  การพัฒนาอาคารเชิงพาณิชย์บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต หลังจากหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ใช้เงินลงทุน 26,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 30 ปี ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี เพื่อสร้างเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่และยังจัดสรรพื้นที่ชดเชยคืนให้กับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวนพื้นที่ 120,000  ตารางเมตร เพื่อใช้เป็นสถานที่จอดรถมินิบัสขนาดเล็กเชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารทั้งรถไฟฟ้าและรถมินิสับขนาดเล็กไปต่างจังหวัด 

สำหรับการพัฒนาที่ดินบริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการลงทุน 6,000 ล้านบาท ระยะเวลา 50 ปี โครงการคืบหน้ามากจากเดิมมีแผนสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ แต่ติดปัญหาเรื่องความสูง จึงต้องแก้ไขสัญญาเพื่อสร้างเป็นศูนย์ประชุมเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงต้องเสนอ ครม.พิจารณาเพิ่มอีกครั้ง ในส่วนของท่าเรือสาธารณะและเชิงพาณิชย์ กรมธนารักษ์ยืนยันว่าได้มอบอำนาจให้กรมเจ้าท่าดำเนินโครงการได้ทั้งหมด เพื่อพิจารณาจัดหาผู้เช่าและบริหารท่าเรือทั้งหมด 35 ท่าเรือ หลังจากปรับลดค่าเช่ารายปีลดลงร้อยละ 60-70  ดังนั้น การพัฒนาท่าเรือใดกระทรวงคมนาคมต้องเสนอ ครม.พิจารณาเป็นรายโครงการด้วยตนเองทั้งหมด 


ด้านแผนลงทุนหอชมเมืองกรุงเทพฯ วงเงินลงทุน 4,600 ล้านบาท ลงทุนรูปแบบกึ่ง PPP ขณะนี้อัยการอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญา คาดว่าจะเริ่มลงทุนปี 2561 ส่วนแผนการก่อสร้างศูนย์ราชการโซน C ขณะนี้ส่วนราชการยื่นแสดงความจำนงขอเช่าพื้นที่เต็มจำนวนทั้งหมดแล้ว ด้วยเงินลงทุน 30,000 ล้านบาท  หากรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นต้องการเพิ่ม ต้องการแผนให้ ครม.พิจารณา ส่วนความคืบหน้าพัฒนาอาคารร้อยชักสามบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามหอชมเมืองกรุงเทพฯ อายุสัญญา 36 ปี ภาคเอกชนเตรียมนำมาพัฒนาเป็นโรงแรมหรูริมแม่น้ำ ด้วยเงินลงทุน 14,000 ล้านบาท การเจรจาคืบหน้ามากแล้ว ต้องรอให้อัยการตรวจร่างเพิ่มคาดว่าสรุปได้ไตรมาสแรกปีหน้า นับว่าโครงการลงทุนทั้งหมดที่ต้องการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมปี 2561 มีวงเงินลงทุนประมาณ  90,000 ล้านบาท หวังนำที่ว่างเปล่ามาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่