พบอีก ลักลอบทำงานเกาหลีใต้ ป่วย วอนช่วยกลับไทย

กทม. 24 พ.ย.-กรมการจัดหางาน รับแจ้งมีหญิงไทยจากจ.ลำพูนลักลอบไปทำงานโรงงานในเกาหลีใต้ จ่ายเงินให้นายหน้า 35,000 บาทไปทำงานได้ระยะหนึ่ง เกิดป่วยเป็นโรคตับอักเสบกะทันหัน ครอบครัวไม่มีเงินรักษา นอนหมดสติอยู่รพ.ที่เกาหลีใต้ แฟนหนุ่มวอนขอให้ช่วยเหลือ ย้ำคนหางานควรไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากประสบปัญหาหรือเจ็บป่วย หน่วยงานของรัฐช่วยเหลือได้ยาก ทั้งยังไม่มีสวัสดิการจากนายจ้างอีกด้วย


นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานได้รับรายงานว่ามีคนงานหญิงไทยซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดลำพูนได้ลักลอบเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ โดยจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการ 35,000 บาท ให้กับนายหน้าจัดหางานเถื่อน ไปทำงานเกษตรและต่อมาย้ายมาทำงานที่โรงงานทำถุงมือ ซึ่งตั้งใจจะทำงานให้ครบ 90 วัน แล้วจะเดินทางกลับไทย แต่เกิดป่วยเป็นโรคตับอักเสบกะทันหัน ต้องเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในเกาหลีใต้ โดยต้องผ่าตัดเปลี่ยนตับใหม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 75,000,000 วอน หรือประมาณกว่า 2,000,000 บาท ครอบครัวไม่มีเงินรักษา จึงนอนรักษาตัวแบบหมดสติในโรงพยาบาล และมียอดค่ารักษาพยาบาลไม่ต่ำกว่า 5,300,000 บาท หรือประมาณกว่า 158,000 บาท แฟนหนุ่มจึงวอนขอความช่วยเหลือ ซึ่งกรมการจัดหางานได้สั่งการให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำพูนลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวคนงานดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและให้คำแนะนำในการประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมการจัดหางานจึงขอย้ำเตือนคนหางานที่จะไปทำงานโดยไม่ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องของกรมการจัดหางานทราบถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากการลักลอบไปทำงานดังเช่นกรณีดังกล่าว โดยหากเกิดการเจ็บป่วยหรือประสบปัญหา หน่วยงานราชการไทยในประเทศนั้นๆ จะไม่สามารถทราบถึงข้อมูลของคนงานไทย เช่น ที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน เพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือได้ นอกจากนี้ ยังไม่มีสวัสดิการและค่ารักษาพยาบาลจากนายจ้างขอประเทศที่คนหางานเข้าไปทำงานอีกด้วย ดังนั้นจึงขอให้เดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและติดต่อสอบถามกับกรมการจัดหางานก่อนตัดสินใจ โดยสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ หรือที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน หรือโทร.สายด่วน 1694 นายอนุรักษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง