กรมการจัดหางานปูพรมย่านดัง กทม.-ปริมณฑล เอาผิดต่างชาติแย่งงานคนไทย

กรุงเทพฯ 18 พ.ค. – อธิบดีกรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ตรวจสอบคนต่างชาติทำงานผิดกฎหมาย ย่านห้วยขวาง ลาดกระบัง ราชเทวี ภาษีเจริญ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรสาคร ตามที่พลเมืองดีแจ้งเบาะแส ย้ำสุ่มตรวจต่อเนื่อง เจอจับดำเนินคดี ไม่มีข้อยกเว้น


นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานตั้งเป้าหมายกวาดล้างแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น ลงพื้นที่ตรวจสอบทุกเบาะแส ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์วิธีการจ้างคนต่างชาติทำงานตามกฎหมาย และงานที่ห้ามคนต่างชาติทำ

ล่าสุด (วันที่ 13-17 พฤษภาคม 2567) เจ้าหน้าที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างชาติและนายจ้างในพื้นที่เขตห้วยขวาง เขตลาดกระบัง เขตราชเทวี เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่ามีคนต่างชาติลักลอบทำงานผิดกฎหมาย อาทิ เร่ขายไอศกรีม อาหารและเครื่องดื่ม ขายทุเรียน ทำงานในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ร้านสินค้าเบ็ดเตล็ด และไซต์ก่อสร้าง


จากการตรวจสอบทั้งสิ้น 31 จุด พบนายจ้างคนไทยกระทำความผิด 7 ราย และแรงงานต่างชาติกระทำความผิด 40 ราย ในจำนวนนี้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย และกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ 39 ราย จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีต่อไป

กรมการจัดหางานขอย้ำเตือนว่าจะตรวจสอบดำเนินคดีทั้งกับนายจ้างและแรงงานต่างชาติที่กระทำผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เข้มงวดโดยไม่มีข้อยกเว้น นอกจากการตรวจสอบตามการร้องเรียน แจ้งเบาะแสแล้ว จะสุ่มตรวจสอบในสถานที่เสี่ยงพบการกระทำผิด อาทิ ตลาด สถานที่ท่องเที่ยว ย่านชุมชนคนต่างชาติ เป็นต้น เพื่อมิให้กระทบต่อโอกาสการมีงานทำของคนไทย

“ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หากคนต่างด้าวฝ่าฝืนทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือสิทธิ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมทั้งไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี และข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายจ้าง/สถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว


ทั้งนี้ หากพบเห็นการจ้างคนต่างชาติทำงานโดยผิดกฎหมาย หรือพบคนต่างชาติลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งมาที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน โทร.0 2354 1729 หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694 .-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”