กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – แล็บประชารัฐพร้อมหนุนผู้ประกอบการขนาดเล็ก ยกระดับมาตรฐานสินค้า สร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจ ผ่านงาน “ดีเดย์ SMEs ยกพลเข้าแล็บ”
นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ แล็บประชารัฐ กล่าวถึงการจัดงาน “ดีเดย์ SMEs ยกพลเข้าแล็บ” วันนี้ (15 พ.ย.) ว่าถือเป็นกิจกรรมส่งท้ายปีของโครงการคูปองตรวจวิเคราะห์มาตรฐานสินค้าและผลิตภัณฑ์ มูลค่า 5,000 บาท ระยะ 2 ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ให้กับผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs, OTOP, วิสาหกิจชุมชน, เกษตรกร รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการเครื่องสำอางให้ได้รับการยกระดับมาตรฐานสินค้า
สำหรับภายในงานมีกิจกรรมคูปองแล็บประชารัฐ มูลค่า 5,000 บาท ให้ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านทาง www.centrallabthai.com นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมฟรี 4 อย่าง ได้แก่ ตรวจแล็บฟรีด้วยคูปองแล็บประชารัฐ, บริการคำปรึกษาการขอเลข อย. จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, เรียนรู้เทคนิคการขายของออนไลน์อย่างไรให้ปังโดยผู้บริหารเว็บไซต์ Beautynista, บริการให้คำแนะนำปรึกษาทางธุรกิจจาก สสว. และพิเศษสุดกับสินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) โครงการคูปองแล็บประชารัฐจะให้บริการตรวจ 4 กลุ่ม ได้แก่ รายการตรวจวัดสารปนเปื้อน, รายการตรวจวิเคราะห์ตามมาตรฐานภาครัฐ, รายการตรวจฉลากโภชนาการ และที่ปรึกษาด้านมาตรฐานสถานที่ผลิตอาหาร (GMP) เพื่อช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า เพิ่มโอกาสการแข่งขันของผู้ประกอบการ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในยุคเศรษฐกิจ 4.0 รองรับการเติบโตทั้งภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
“แล็บประชารัฐแนะนำให้เอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนให้ความสำคัญกับการทำสินค้าให้มีคุณภาพเป็นอันดับแรก เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การยกระดับผู้ประกอบการมีความครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้เป็นอย่างดี จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายเล็กทั่วประเทศประมาณ 2 ล้านราย” นายสุรชัย กล่าว
ทั้งนี้ แล็บประชารัฐเป็นแล็บเดียวในประเทศไทย และ 1 ใน 5 ของเอเชีย ที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบความชำนาญการตรวจปริมาณสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ของแล็บกลางสหภาพยุโรป (EURL) โดยมีทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร กรุงเทพฯ และสงขลา.-สำนักข่าวไทย