กรุงเทพฯ 6 พ.ย.- ครอบครัวสาวใช้ชาวเมียนมาร์ยังติดใจสาเหตุการตายปริศนาของลูกสาว สงสัยเป็นฝีมือนายจ้าง รอผลนิติเวชอีก 2สัปดาห์ เตรียมส่งศพให้หมอพรทิพย์ผ่าพิสูจน์อีกครั้ง
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมพร้อมด้วยนายไนโก โกไน ผู้ช่วยประสานงานแรงงานเมียนมาร์ประจำประเทศไทย และนางปาละ และ น.ส.ลุควา ปาเปียว แม่และพี่สาว น.ส.น้ำหวาน ปาเปียว อายุ 17 ปี สาวใช้ชาวเมียนมา เสียชีวิตปริศนาภายในบ้านเลขที่ 15/13 ถนนปากแรต ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา เข้ารับฟังผลการชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โดย พ.ต.อ.ภวัต ประทีปวิศรุต รรท.ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. ได้เชิญครอบครัวผู้ตายขึ้นไปบนสำนักงานชั้น 5 เพื่ออธิบายผลชันสูตรพลิกศพ โดยใช้เวลาประมาณ30 นาที
นางปาละ มารดากล่าวสั้นๆว่า ไม่เชื่อว่าลูกฆ่าตัวตาย ยืนยันไม่เคยมีปัญหากันกับพี่สาว
ส่วน น.ส.ลุควา ปาเปียว พี่สาวกล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางครอบครัวยังไม่ได้ไปพบหรือพูดคุยอะไรกับนายจ้าง ส่วนนายจ้างก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรว่าจะช่วยเหลือค่าทำศพ หรือค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ส่วนกรณีที่ตำรวจบ้านโป่ง ระบุสาเหตุเป็นการฆ่าตัวตายเพราะพี่สาวขโมยเงินนั้น ยืนยันว่าไม่เคยมีการขโมยเงินน้องสาวตามที่ถูกกล่าวหาแน่นอน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า สงสัยนายจ้างหรือไม่ น.ส.ลุควา กล่าวว่า สงสัยนายจ้าง เพราะนายจ้างไม่ชอบตนอาจจะทำให้ไม่ชอบน้องสาวตัวเองด้วย โดยปกตินายจ้างเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย
ด้านนายรณณรงค์ กล่าวด้วยว่า แพทย์ยังไม่สรุปหรือลงความเห็นอะไรมากนัก คงต้องรอผลจากทางห้องปฏิบัติการอีกครั้ง ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงยังไม่สามารถสรุปการเสียชีวิตได้ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบกระสุนปืนถูกยิงจากขมับด้านซ้ายไปด้านขวา ซึ่งขัดแย้งกับการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ที่บอกว่ายิงจากขวาไปซ้าย และพบถูกยิงแค่1 นัด แต่ในที่เกิดเหตุพบกระสุน 2 นัด ส่วนนัดที่คาดว่าทำให้เสียชีวิต คาดจะเป็นกระสูนลูกเดียวกัน ที่เจาะบริเวณหน้าต่างบ้านของนายจ้าง ส่วนกระสูนอีกนัดฝังอยู่ที่บ้านของเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ญาติยังติดใจการเสียชีวิต แม้จะทำการชันสูตรพลิกศพ มาแล้ว 2 ครั้ง และเตรียมนำศพไปให้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผ่าชันสูตรอีกครั้ง ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์.-สำนักข่าวไทย