วอชิงตัน 7 ต.ค.- แหล่งข่าวสหรัฐและปากีสถานเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งนักการทูตและนักการทหารไปปากีสถานเพื่อเตือนปากีสถานให้ยุติการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายตามที่เขาเคยกล่าวหา
แหล่งข่าวเผยว่า นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะเดินทางไปปากีสถานในเดือนนี้ ตามด้วย พล.อ.จิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหม หวังตอกย้ำสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์เคยเตือนเมื่อเดือนสิงหาคมให้ปากีสถานยุติการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย สหรัฐกล่าวหาปากีสถานว่าให้กลุ่มตอลีบานและกลุ่มติดอาวุธที่สู้รบกับกองกำลังสหรัฐและอัฟกานิสถานกบดานบริเวณชายแดน ความสัมพันธ์สองประเทศถึงจุดแตกหักเมื่อรัฐบาลสหรัฐสมัยบารัค โอบามาส่งกองกำลังพิเศษไปเด็ดชีพอุซมะห์ บิน ลาดิน หัวหน้าอัลกออิดะห์ในเมืองแอบบอตตาบัดของปากีสถานในปี 2554
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐคาดว่า คงจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใด ๆ หลังการเยือนของ พล.อ.แมททิส ขณะที่นายคาวาจา อาซิฟ รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานกล่าวขณะเยือนสหรัฐว่า การที่สหรัฐกล่าวหาปากีสถานซึ่งเป็นมิตรกันมานาน 70 ปีเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ แทนที่จะกล่าวหาและข่มขู่ สองประเทศควรหันมาร่วมมือสร้างสันติภาพมากกว่า ด้านนักวิชาการในสหรัฐที่เชี่ยวชาญเรื่องเอเชียใต้มองว่า กลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญของหน่วยข่าวกรองปากีสถาน ดังนั้นปากีสถานจะไม่เปลี่ยนแปลงใด ๆ ยกเว้นรัฐบาลทรัมป์จะทำในสิ่งที่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยทำมาก่อน การที่ทรัมป์ขู่จะลดความช่วยเหลือทางทหารไม่ใช่การลงโทษปากีสถาน แต่เป็นเพียงการประหยัดเงินภาษีชาวอเมริกันเท่านั้น ส่วนการจะลงโทษทางเศรษฐกิจก็อาจผลักให้ปากีสถานไปใกล้ชิดกับจีนมากยิ่งขึ้น ขณะที่สหรัฐยังคงต้องพึ่งพาปากีสถานเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังเข้าอัฟกานิสถานอยู่ต่อไป.-สำนักข่าวไทย