กรุงเทพฯ 5 ต.ค.-การบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ ราชยาน ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช ต้องใช้ช่างฝีมือ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่และจิตอาสา ใช้องค์ความรู้ศิลป์โบราณ ร่วมแรงร่วมใจ ให้ราชรถ ราชยานออกมางดงามสมพระเกียรติ
พระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย และราชรถปืนใหญ่ บูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ใช้เวลากว่า 8 เดือน กระทั่งเสร็จสมบูรณ์วิจิตรงดงาม เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยช่างศิลป์ฝีมือดี ร่วมแรงร่วมใจรังสรรค์ผลงาน ซึ่งเป็นที่สุดแห่งความภาคภูมิใจ เพื่อถวายอาลัยครั้งสุดท้าย โดยถือมหัทธโนฤกษ์เวลา 14.51 นาที ของวันที่ 21 กันยายน 2560 อัญเชิญราชรถและพระยานมาศ เครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศ ออกจากโรงราชรถ เพื่อทำพิธีบวงสรวง
ความวิจิตรงดงามของราชรถ ราชยาน ตลอดจนริ้วขบวนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้งานทุกส่วนงดงามยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ทั้งช่างประติมากรรม จิตรกรรม ศิลปกรรม และงานประณีตศิลป์ งานแกะ ฉลุลาย งานปัก ทุกขั้นตอนดำเนินการควบคู่ไปกับการก่อสร้างพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง ระดมทีมช่างฝีมือและผู้เชี่ยวชาญจากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร รวมทั้งจิตอาสาหลายร้อยชีวิตมาร่วมแรงถวายงาน
การบูรณะราชรถ และพระยานมาศ นับเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นการรวมพลังของหลายหน่วยงานที่เข้ามาปฏิบัติการร่วมกับสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร อย่างเต็มกำลัง เริ่มตั้งแต่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบกระบวนการสำรวจราชรถ ทำความสะอาดที่กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ กรมสรรพาวุธทหารบกเป็นผู้ดูแลระบบการขับเคลื่อน ล้อเพลาทั้งหมด
ราชรถและพระยานมาศ ที่ใช้ในพระราชพิธีครั้งสำคัญนี้ ประกอบด้วย พระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย 3 องค์ เกรินบันไดนาค พระยานมาศสามลำคาน พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ นอกจากนี้ ยังจัดสร้างราชรถปืนใหญ่ และพระที่นั่งราเชนทรยานน้อยขึ้นใหม่ ซึ่งถือเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศอย่างสมพระเกียรติยศ และเป็นการส่งเสด็จพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยสู่สวรรคาลัยอย่างสมพระเกียรติ.-สำนักข่าวไทย