คสช.มอบ กอร.รส.-กอร.พระราชพิธีฯ คุมเข้มรักษาความปลอดภัย

กองทัพบก 3 ต.ค.-คสช. มอบ กอร.รส.เชื่อมต่อ กอร.พระราชพิธีฯ คุมเข้มงานรักษาความปลอดภัยและดูแลประชาชน


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การประชุมสำนักเลขาธิการ คสช.ครั้งแรกในปีงบประมาณ 2561 ในวันนี้ (3 ต.ค.) พล.อ.เฉลิมชัย  สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช.เป็นประธาน โดยได้กล่าวถึงภาพรวมการทำงานในปีงบประมาณ 2560 ว่า ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกส่วนราชการ ทำให้สถานการณ์ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ประเทศมีความสงบและเดินหน้าไปตามโรดแมป เชื่อว่าในปีงบประมาณ 2561 เราจะก้าวไปข้างหน้าตามบริบทของการบริหารบ้านเมืองและมุ่งสู่การเลือกตั้งได้อย่างเรียบร้อย

“การประชุมในวันนี้ เลขาธิการ คสช.ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเตรียมสนับสนุนงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  โดยเฉพาะงานรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยขณะนี้รัฐบาลได้มีการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ (กอร.พระราชพิธีฯ) ณ กระทรวงกลาโหม ซึ่งจะดูแลภาพรวมในงานพระราชพิธีฯ ให้เรียบร้อยและสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การจราจร และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน” รองโฆษก คสช.กล่าว


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์นี้ หลังปิดการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ เลขาธิการ คสช. กำชับให้กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) ประสานการปฏิบัติและเชื่อมต่อข้อมูลการใช้กำลังเจ้าหน้าที่กับกองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพื่อเชื่อมต่องานรักษาความปลอดภัย อำนวยการจราจรให้เรียบร้อยในทุกเส้นทางและทุกพื้นที่ พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยดำเนินมาตรการด้านการข่าว การชี้แจงและขอความร่วมมือในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในช่วงงานพระราชพิธีฯ ด้วย รวมทั้งขณะนี้เริ่มนับถอยหลังเพื่อเตรียมการสู่ช่วงงานพระราชพิธีฯ ซึ่งทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินงานตามกรอบที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด พร้อมย้ำให้หน่วยทหารในทุกจังหวัดประสานและสนับสนุนทางจังหวัดในกิจกรรมทั้งปวงให้เรียบร้อยสมพระเกียรติในทุกพื้นที่ 

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการทำงานของ คสช. ในปีงบประมาณ 2561 เลขาธิการ คสช.ได้ย้ำในนโยบายที่ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ยังคงดูแลภาพรวมของประเทศให้มีความสงบเรียบร้อย เน้นการช่วยเหลือประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมสนับสนุนให้กระบวนการต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าไปตามกรอบแนวทางที่รัฐบาลและ คสช.ได้กำหนดไว้ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเตรียมการไปสู่การเลือกตั้ง และการมีรัฐบาลใหม่ นอกจากนี้ คสช.จะเน้นสร้างความเข้มแข็งในงานจิตอาสา ส่งเสริมให้ประชาชนทำความดี ทำประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่อสร้างสังคมแห่งความสุขตามแนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง