ดีเอสไอ 3ต.ค. ทนาย โอ๊ค พานทองแท้ ยื่นหนังสือต่อดีเอสไอ ขอให้ยุติการดำเนินคดีฟอกเงิน หลัง คตส.มีมติเอาผิดเพียงรับของโจร
นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความของ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้เข้ายื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อขอให้ระงับการแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ที่ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับนายพานทองแท้ ในคดีทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้แก่กลุ่มกฤษดามหานคร โดยให้เหตุผลว่า การรับเช็ค 10 ล้านและ 26 ล้าน คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ คตส.มีมติให้ดำเนินคดีกับ พานทองแท้ เพียงข้อหารับของโจร ไม่มีข้อหาฟอกเงิน ดังนั้นข้อหาอื่นจึงตกไป พร้อมขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน ให้กลับไปเป็น ปปง.เหมือนเดิม เนื่องจากเกรงว่าการดำเนินการของดีเอสไอไม่เป็นธรรม เพราะคดีนี้มีผู้ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหากว่า 100 แต่ทำไมเจาะจงดำเนินคดีเฉพาะนายพานทองแท้
นายชุมสาย กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกหมายเรียก นายพานทองแท้ พร้อมพวกรวม 4 คน ได้แก่ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา นายพานทองแท้ และ นายวันชัย หงษ์เหิน สามีของ นางกาญจนาภา และ นางเกศินี จิปิภพ มารดาของ นางกาญจนาภา ให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือเรียกแต่อย่างใด แต่ยืนยันหากได้รับหนังสือ นายพานทองแท้ จะมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ส่วนจะขอเลื่อนการเข้าพบหรือไม่นั้น ยังไม่ระบุ ขอให้ได้หนังสือเรียกก่อน
ขณะที่ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า จะรีบนำเรื่องส่งมอบให้พนักงานสอบสวนพิจารณาในข้อกฎหมายว่าจะสามารถดำเนนิการอย่างไรต่อไปได้บ้าง ส่วนการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนจากดีเอสไอ เป็น ปปง.นั้นไม่สามารถทำได้เนื่องจากคดีนี้เป็นอาญาซึ่งเป็นหน้าที่ของดีเอสไอในการสอบสวน ส่วน ปปง.มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของคดีแพ่งเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย