2 ก.พ.- “พิชัย” ถก รัฐมนตรีการค้าบาห์เรน ที่ดาวอส ชูไทยเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร พร้อมดันทำ FTA สร้างแต้มต่อการค้า-ลงทุนระหว่างกัน
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในห้วงการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) ระหว่างวันที่ 21 – 24 มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ตนได้พบหารือกับนายอับดุลลา อาเดล ฟาครอ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์บาห์เรน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เร่งเจรจาการค้าเชิงรุกให้ไทยเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารแก่ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งผลักดันการจัดทำ FTA ระหว่างไทยและบาห์เรน
นายพิชัย ระบุว่า บาห์เรนเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับไทย และมีส่วนช่วยในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกับกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ GCC และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวอาหรับ โดยฝ่ายบาห์เรนพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุม Joint Steering Committee ด้านความมั่นคงทางอาหาร การค้า และการลงทุนในสินค้าเกษตร และอาหารฮาลาลกับไทย ซึ่งไทยยินดีที่จะสนับสนุนด้านสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลให้กับบาห์เรน โดยการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร ให้แก่บาห์เรน พร้อมเป็นแหล่งผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายและเก็บรักษาพร้อมส่งมอบให้กับบาห์เรน
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทยกับบาห์เรน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ และเปิดโอกาสให้สินค้าและบริการไทยสามารถเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลางได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตนได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหารือกับเจ้าหน้าที่ของบาห์เรน เพื่อจัดทำแผนการทำงานร่วมกันต่อไป โดยการจัดทำ FTA ให้สำเร็จจะเป็นแต้มต่อการค้าการลงทุนในอนาคตของทั้งสองประเทศต่อไป
นายพิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงการประชุมที่ดาวอส ตนได้มีโอกาสพบปะหารือกับรัฐมนตรีการค้าและนักธุรกิจจากหลายประเทศ รวมถึงได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในวงต่างๆ ตนได้เน้นย้ำว่า เศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของรัฐบาลนายกแพทองธาร เรากำลังเข้าสู่ยุคทอง นโยบายต่างๆกำลังดำเนินไปอย่างถูกทิศทาง เศรษฐกิจไทยของเรากำลังไปได้ดี ดูได้จากตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 มีมูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี และการส่งออกปี 2567 ก็ขยายตัวถึง 5.4% มูลค่ากว่า 10.5 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กระทรวงพาณิชย์คาดแนวโน้มส่งออกปี 68 จะขยายตัวได้ที่ 2-3% และกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมจะเป็นหน่วยที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้เกิดโอกาสทางการค้า การลงทุน ขณะเดียวกันก็จะใช้โอกาสนี้ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยของไทยให้สามารถขายสินค้าในต่างประเทศได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิช์ ระบุว่า บาห์เรนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 59 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 9 ในตะวันออกกลาง การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 542.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทย 179.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทย 363.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช เคมีภัณฑ์ และสัตว์น้ำสดแช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป และกึ่งสำเร็จรูป .319.-สำนักข่าวไทย