ดีเอสไอ 29 ก.ย.-ดีเอสไอ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหลังมีหลักฐานโอนเงินคดี ธนาคารกรุงไทยหลุด ยันสอบสวนตามข้อเท็จจริง
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าว ถึงกรณีที่สังคมออนไลน์ มีการนำสลิปการโอนเงินเข้าบัญชี พลเรือเอก พะจุณณ์ ตามประทีป จำนวน 100,000 บาท และโอนเข้าบัญชี พล.อ.”ป” จำ นวน 200,000 บาท ก่อนเงินจะถูกโอนไปเข้าบัญชีมูลนิธิประวัติ ศาสตร์มาเผยแพร่ พร้อมเรียกร้องให้ดีเอสไอสอบสวนเนื่องจากเป็นการรับโอนเงินจากบริษัทกฤษดามหานคร ลักษณะเดียวกับนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินกรณีรับเช็ค 10,000,000 บาท
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนว่าข้อมูลดังกล่าว ถูกนำออกไปจากสำนวนการสอบสวนได้อย่างไร มีพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษเข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำหลักฐานประ กอบสำนวนออกไปให้บุคคลภายนอกหรือไม่ แต่ประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการตรวจสอบพบรายชื่อบุคคลที่รับเงินจากบริษัทกฤษดามหานครตั้งแต่ คตส.เริ่มสอบสวน จึงอาจเป็นไปได้ว่าหลักฐานที่หลุดออกไปเป็นเรื่องเก่าที่ถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นในช่วงใกล้การเรียกผู้ต้องหาเข้ารับทราบกล่าวข้อหา ซึ่งถือเป็นเทคนิคทั่วไปที่นำมาใช้ต่อสู้คดี
ส่วนก่อนหน้านี้ที่ นายวีระ สมความคิด นายวันชัย บุนนาค และนายชุม สาย ศรียาภัย ทนายความของนายพานทองแท้ ทยอยเข้าร้องขอความเป็นธรรม และร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอสอบสวนไปยังกลุ่มผู้รับเงิน และอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) รวมถึงนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ในฐานะอดีตประธานบริษัท กฤษดามหานครตั้งแต่ปี 2535-2555 ตนได้ตั้งพนักงานสืบสวน สอบสวน ขึ้นแยกออกมาอีก 1 ชุด เพื่อตรวจสอบคำร้องทั้งหมดว่า เป็นประเด็นเดิมที่เคยมีการร้องทุกข์ไว้แล้วหรือไม่ และมีประเด็นใหม่ที่ยังไม่เคยร้องทุกข์หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ว่าพนักงานสอบสวนชุดเดิมทำสำนวนไว้ครบถ้วนหรือไม่ โดยการร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมจะไม่ส่ง ผลให้คดีในส่วนอื่นต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าไป ยืนยัน ดีเอสไอ สอบสวน ดำเนินการตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริง ย้ำว่าไม่มีการกลั่นแกล้งใคร และไม่ว่าคดีจะไปในทิศทางใดทั้งสั่งฟ้อง หรือไม่ฟ้อง ก็ต้องมีเหตุผล และคำตอบอธิบายกับสังคมได้.-สำนักข่าวไทย