เอ็กโก้ มักน้อยแข่งราคา เอสพีพีไฮบริด เพียง 30 เมกะวัตต์

กรุงเทพฯ 27 ก.ย.-เอ็กโก้เตรียมยื่นประมูลเอสพีพีไฮบิด 30 เมกะวัตต์ พร้อมปัดฝุ่นใช้ที่ดินระยอง พัฒนาเป็นนิคมฯรับอีอีซี


นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการผ้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) กล่าวว่า บริษัทเตรียมยื่นเสนอขายไฟฟ้าตามโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm ที่รัฐบาลเตรียมจะเปิดให้ยื่นข้อเสนอในเดือน ต.ค.นี้  300 เมกะวัตต์โดยจะเสนอ 1 โครงการ ใช้ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงการผลิต กำลังผลิตไม่เกิน 30 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และพร้อมที่จะยื่นเสนอขาบโครงการ VSPP Hybrid Firmหากมีการเปิดรับซื้อในต้นปีหน้า

สำหรับโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 4 โรงที่ใกล้จะหมดอายุ โดยโรงไฟฟ้าในจ.สระบุรี 1 แห่ง ที่มีกำลังการผลิตกว่า 100 เมกะวัตต์ จะหมดอายุก่อนโรงแรกในปี 62 ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับการต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพราะว่าเป็นโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่นอกนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์การต่อสัญญา ส่วนโรงไฟฟ้า SPP ที่เหลือก็จะทยอยหมดอายุตามลำดับ แต่โรงไฟฟ้าที่เหลือนั้นตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ก็มีโอกาสที่ได้รับการต่อสัญญาแต่ทั้งนี้ต้องศึกษารายละเอียดก่อน เรื่องคุ้มค่าการลงทุน  


ขณะเดียวกันยังมองหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจน 1 โครงการในปีนี้ พร้อมทั้งศึกษาการนำที่ดินบนที่ตั้งโรงไฟฟ้าระยองที่หมดอายุไปแล้วประมาณ 500 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรม รองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งจะมีการหารือกับพันธมิตรคาดว่าจะสรุปผลได้ในกลางปี  61

ส่วนผลการดำเนินการในปี 2560    นายชนินทร์ คาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโตเกินเป้าหมายที่คาดว่าไว้ที่ 10% จากระดับ 8.32 พันล้านบาทในปีที่แล้ว หลังในช่วงครึ่งแรกของปีนี้กำไรเติบโตเกือบ 40% จากกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ที่จะทยอยเข้าระบบในปีนี้ราว 360 เมกะวัตต์ รวมถึงการรับรู้กำไรจากการเข้าไปซื้อหุ้นราว 20% ในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพซาลัก และดาราจัท ในอินโดนีเซีย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา        

สำหรับโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าคลองหลวง ที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วเมื่อปลายเดือนก.ค. ส่วนโรงไฟฟ้าโครงการทีพี โคเจน และเอสเค โคเจน ในจ.ราชบุรี จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเดือนต.ค.นี้ โดยโรงไฟฟ้าที่เข้าระบบในปีนี้ก็จะทำให้รับรู้ผลการดำเนินงานในเต็มปีในปีหน้า แม้ว่าจะไม่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้าระบบเลยก็ตามในปีหน้า แต่ก็เชื่อว่ากำไรในปี 61 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีนี้ 


ปัจจุบัน EGCO มีโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องแล้ว 27 แห่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนราว 4,352 เมกะวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 6 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 911 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 64 ได้แก่ โรงไฟฟ้า PP จำนวน 2 โรง ที่จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเดือนต.ค.นี้ ,โรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ในลาว ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 62 ,โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา และโรงไฟฟ้ามาซินลอค หน่วยที่ 3 ในประเทศฟิลิปปินส์ จะเริ่มเดินเครื่องผลิตในปี 62  -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง