กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – “เอ็กโก” เผยแผนลงทุนในปี 2567 ตั้งบประมาณไว้ 30,000 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตปีละ 1,000 เมกกะวัตต์ เล็งหาหุ้นส่วนเดิมใน 8 ประเทศ หลังปิดดีลกับ 3 โรงไฟฟ้าในสหรัฐฯและกำลังศึกษาข้อมูลการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของบริษัทใหญ่ในสหรัฐรวม 238 โครงการ กำลังการผลิต 60,543 เมกะวัตต์
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจของ เอ็กโก กรุ๊ป ว่า เอ็กโก ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าใน 8 ประเทศ คือ ไทย ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน ออสเตรเลีย เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา รวมกำลังการผลิต 6,996 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นกำลังการผลิตที่ดำเนินการอยู่แล้ว 6,715 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 281 เมกะวัตต์ เป็นกำลังการผลิตในประเทศไทย 42% และต่างประเทศ 58% ทั้งนี้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 4,200 เมกะวัตต์ คิดเป็น 60% พลังงานหมุนเวียน 1,440 เมกะวัตต์ คิดเป็น 21% และถ่านหิน 1,356 เมกะวัตต์ คิดเป็น 19% ของกำลังการผลิตทั้งหมด
โดยการลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ปิดดีลโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า กำลังการผลิต 1,304 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นโรงไฟฟ้า มาร์คุส ฮุค รัฐเพนซิลวาเนีย กำลังการผลิต 912 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้า มิลฟอร์ด รัฐแมสซาชูเซตส์ กำลังการผลิต 205 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้า ไดร์ทตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ กำลังการผลิต 187 เมกะวัตต์ซึ่งการลงทุนในสหรัฐอเมริกา จะมีข้อดีคือ ได้รับการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนและคู่แข่งที่จะเข้ามาในพื้นที่ทำได้ยาก ถือเป็นการได้เปรียบเชิงพื้นที่รวมทั้งอยู่ใกล้แหล่งก๊าซธรรมชาติทำให้สามารถแข่งขันได้ โดย เอ็กโก ถือหุ้น 50% ทั้ง 3 โรงไฟฟ้า นอกจากนี้เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เอ็กโก ยังเตรียมลงทุนเพิ่มเติมร่วมกับ APEX Clean Energy ผู้พัฒนาโครงการพลังงานสะอาดของสหรัฐอเมริกา รวม 238 โครงการ กำลังการผลิต 60,543 เมกะวัตต์ โดยในจำนวนนี้เป็นการลงทุนที่อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลคือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม (Wind Farm) 81 โครงการ กำลังการผลิต 35,462 เมกะวัตต์ พลังงานจากแสงอาทิตย์(Solar Farm) 125 โครงการ 19,477 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังลงทุนในระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่อีก 23 โครงการ กำลังการผลิต 4,275 เมกะวัตต์ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างศึกษาข้อมูลการลงทุนเข่นกัน อย่างไรก็ดี การลงทุนร่วมกับ APEX Clean Energy ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 7 โครงการ กำลังการผลิต 1,035 เมกะวัตต์
ในส่วนของการลงทุนที่ไต้หวัน เอ็กโก กรุ๊ปได้ร่วมกับ Skyborn Renewable,TotalEnergies และ กลุ่ม Sojitz Corp ก่อตั้งบริษัทโรงไฟฟ้ายูนหลิน ( Yunlin) เพื่อผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมในทะเลซึ่งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน-จีน โดยบริเวณนี้จะเป็นเขตที่มีมรสุมเข้ามาเกือบทั้งปี ปีละ 6-7 เดือนแต่ก็มีช่วงเวลาของการก่อสร้างเสากังหันลมได้ปีละ 5-6 เดือน โดยโครงการโรงไฟฟ้ายูนหลิน ล่าช้ามาตั้งแต่ปี 2564-2565 ซึ่งขณะนี้กำลังกลับเข้าไปตอกเสาเข็มสร้างกังหันลมทั้งหมด 80 ต้นซึ่งล่าสุดตอกเสาเข็มได้แล้ว 45 ต้น ในจำนวนนี้จ่ายไฟเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้แล้ว 33 ต้น กำลังการผลิต 264 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามการทำงานในทะเลค่อนข้างมีข้อจำกัดเพราะต้องใช้เรือถึง 40 ลำในการทำงานซึ่งเสากังหันลมแต่ละต้นจะมีความสูง 100 เมตรและมีน้ำหนักมากถึง 1,900 ตัน ทำให้ความยากของการก่อสร้างกังหันลมอยู่ที่การตอกเสาเข็มในทะเล
นายเทพรัตน์ กล่าวถึงแผนลงทุนในปี 2567 ว่า เอ็กโก ตั้งเป้าจะผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละ 1,000 เมกะวัตต์ตามสัดส่วนของผู้ถือหุ้นโดยจะยกเลิกการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินมาใช้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยตั้งงบในปีนี้ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นรวมทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอินโดนีเซีย คาดว่ารายได้จะเติบโตตามโครงการที่เกิดขึ้นใหม่แต่ก็ขึ้นกับอัตราค่าเชื้อเพลิงเป็นหลักด้วย ส่วนแผนการปรับสภาพคล่องทางการเงิน เอ็กโก มีทุนอยู่แล้วแต่ก็พยายามที่จะแสวงหาการลงทุนที่สำเร็จและรับรู้รายได้ได้ทันที. – 513 – สำนักข่าวไทย