อุทยานฯ ทับลาน เร่งหาวิธีควบคุมช้างป่า หลังเพิ่มจำนวนเกินคาด

7 ม.ค. – หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เร่งหาวิธีควบคุมช้างป่าที่เพิ่มจำนวนเกินคาด ล่าสุดออกมาหากิน-ทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน ชี้ภาวะโลกร้อนทำอาหารในป่าลดลง ประกอบกับช้างติดใจรสชาติพืชผลของชาวบ้าน


ภาพจากโดรนตรวจการณ์ในเวลากลางคืนเผยให้เห็นปริมาณช้างป่าในอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งรวมโขลงใหญ่นับร้อยตัว พยายามออกจากป่าเพื่อหากินและทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่แนวรอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลาน และที่ทำกินของชาวบ้าน ในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา อย่างต่อเนื่องนานหลายเดือน

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ระบุการรวมโขลงของช้างป่าขณะนี้เกิดขึ้นจากหลายองค์ประกอบ ทั้งภาวะโลกร้อน มีฝนตกมากขึ้น ทำให้พื้นที่ป่ามีความชื้นเพิ่ม สภาพป่าจึงเริ่มเปลี่ยนไป พื้นที่ในป่าซึ่งเดิมเคยเป็นทุ่งหญ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นพวกไม้เถาที่ไม่ใช่พืชอาหารของช้าง ช้างป่าจึงต้องออกหาอาหารในพื้นที่อื่น และเมื่อเคยออกจากป่ามากินผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งมีรสชาติดีและหาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง จึงติดใจในรสชาติ ช้างจึงพยายามออกมาหากินผลผลิตดังกล่าวแทนที่อาหารในป่าที่มีจำกัด


ประกอบกับแนวคิดการอนุรักษ์สัตว์ป่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาชน จนได้รับคำชมมากมายจากนานาชาติ จึงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้การเพิ่มจำนวนของช้างป่ามีมากขึ้นต่อเนื่อง จนบางคนมองว่าเป็นการเพิ่มขึ้นจนมากเกินไปหรือไม่ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อหาทางจัดการปัญหานี้ ด้วยการปรับกฎหมายในการเคลื่อนย้ายช้างออกจากกัน หรือการจัดการด้วยการคุมกำเนิด

สำหรับสถิติการเพิ่มจำนวนของช้างป่าในอุทยานแห่งชาติทับลาน เท่าที่มีการรวบรวมอยู่ที่อัตราร้อยละ 8 ต่อปี แต่ในความเป็นจริงเชื่อว่าน่าจะมีจำนวนที่เกินกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากปัจจัยที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการรวมโขลงที่ใหญ่ขึ้น การหาอาหารจากพื้นที่เกษตรของชาวบ้านทำได้ง่ายขึ้น ทำให้การผสมพันธุ์ ตกลูก และอัตราการรอดของช้างสูงขึ้น โดยประเมินว่าตอนนี้ในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน น่าจะมีช้างป่าอยู่ไม่น้อยกว่า 400 ตัวแล้ว

ดังนั้น ตอนนี้จึงจำเป็นต้องหาวิธีการควบคุมช้างป่าเหล่านี้ให้อยู่ในพื้นที่ป่าให้ได้ ก่อนจะเปลี่ยนพฤติกรรมออกจากพื้นที่ป่าไปอยู่ในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอย่างถาวร ด้วยการสร้างแหล่งอาหารในป่าเพิ่มมากขึ้น ฟื้นฟูสภาพทุ่งหญ้าให้กลับมาเหมือนเดิม รวมถึงการวางแนวป้องกันด้วยวิธีการต่างๆ การใช้กำลังคนในการผลักดัน และการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ