“เฉลิมชัย” เผยวัคซีนคุมกำเนิดช้างชุดแรกถึงไทย เม.ย. 68

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค. – รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุจะเริ่มดำเนินโครงการฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้างป่า ในช่วงต้นปี 2568 โดยวัคซีนชุดแรกที่สั่งจากต่างประเทศจะมาถึงไทยในเดือนเมษายน 68 ชี้ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งต้องควบคู่กันไปกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า ย้ำนโยบาย “ช้างป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้”


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จะเดินหน้าโครงการควบคุมประชากรช้างป่าด้วยวัคซีนคุมกำเนิดอย่างแน่นอนในต้นปี 2568 โดยวัคซีนชุดแรกที่สั่งจากต่างประเทศจะส่งมาถึงไทยในเดือนเมษายน

จากการหารือกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน สภาผู้แทนราษฎร กมธ. เสนอให้ใช้วัคซีนในการคุมกำเนิดช้างป่าเพื่อเป็นทางเลือกในการควบคุมจำนวนประชากรช้างป่า และลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับช้างป่า การควบคุมประชากรช้างป่าด้วยวัคซีนคุมกำเนิดเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ได้มอบหมายและสั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการเร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาช้างออกนอกป่าที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน


ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาโครงการศึกษาวิจัยการใช้วัคซีนคุมกำเนิดแก่ช้างป่า โดยใช้วัคซีนคุมกำเนิด SpayVac® ซึ่งมีการใช้งานจริงในช้างแอฟริกามาแล้ว

ทั้งนี้ ได้ทดลองฉีดวัคซีนคุมกำเนิดในช้างบ้านเพศเมียเต็มวัย 7 เชือก ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 มีการเก็บตัวอย่างเลือด ตรวจสุขภาพ และติดตามผลหลังการฉีดวัคซีน โดยวัคซีน 1 เข็ม จะควบคุมได้ระยะยาว 7 ปี และวัคซีนไม่มีผลต่อพฤติกรรมและสรีระของช้าง เป็นเพียงควบคุมฮอร์โมนช้างเพศเมียไม่ให้มีลูก

ผลการทดลองหลังการฉีดวัคซีนพบว่าวัคซีนมีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ช้างไม่มีอาการอักเสบ วัคซีนจะไม่ส่งผลกระทบต่อช้างที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ส่งผลเสียต่อพฤติกรรมของตัวช้าง และพฤติกรรมทางสังคมของช้างป่า จึงได้มีโครงการนำร่องเพื่อขยายผลการใช้วัคซีนคุมกำเนิดระยะยาวในช้างป่า


โครงการนี้จะนำร่องในพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด) ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรช้างป่าที่มีอัตราการเพิ่มสูงที่สุด และกำลังเผชิญปัญหาที่รุนแรงมากจากการที่ช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาช้างออกนอกป่าทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ใช้หลายมาตรการควบคู่กันไป ทั้งการสร้างแหล่งอาหารในป่าเพื่อดึงช้างกลับป่า การสร้างแนวป้องกันช้าง การนำเทคโนโลยีมาติดตามการเคลื่อนที่ของโขลงช้าง การปฏิบัติงานของชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า แต่เนื่องจากประชากรช้างป่ามีมากกว่าศักยภาพของพื้นที่ป่าจะรองรับได้ จึงตัดสินใจให้ใช้วัคซีนคุมกำเนิดเพื่อลดอัตราการเกิด

พร้อมกันนี้ย้ำว่าความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องทำควบคู่กันไปกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยยึดมั่นในแนวทาง “ช้างป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้”.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว