จับแม่บ้านรับจ้างดูแลผู้สูงอายุ ทำร้ายร่างกายยายวัย 83 ป่วยติดเตียง

กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – สืบนครบาลจับ “กระต่ายแสนกล” แม่บ้านรับจ้างดูแลผู้สูงอายุ ทำร้ายร่างกายยายวัย 83 ป่วยอัลไซเมอร์ รอยฟกช้ำเพียบ


สืบนครบาล ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายร้องทุกข์ผ่านเพจสืบนครบาลว่า มีคนมักก่อเหตุที่มีลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกายเด็ก ผู้สูงอายุ พยายามลักทรัพย์ผู้สูงอายุฯ โดยตรวจพบข้อมูลจากหลักฐานการแจ้งความ และกล้องวงจรปิดภายในบ้านของผู้เสียหาย อีกทั้งพบว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พายายฮวย วัย 85 ปี เข้าพบ ผกก.สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแม่บ้าน น.ส.นภสร หรือกระต่าย ที่ครอบครัวจ้างมาดูแลผู้สูงอายุ หลังทำร้ายยายฮวยจนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่า 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทุบตีคุณทวดมาแล้วประมาณ 30 ครั้ง นั้น

ล่าสุดชุดปฏิบัติการที่ 2 เข้าจับกุมตัว น.ส.นภสร หรือ “กระต่ายแสนกล” อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี กระทำความผิดฐาน ”ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย“ จับกุมได้ที่หน้าบ้าน ซอยรัฐขจร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง


พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้เสียหายได้โพสต์ในกลุ่ม “หาพนักงานดูแลผู้สูงอายุ” บนกลุ่มเฟซบุ๊ก โดยทางผู้เสียหายต้องทำงานประจำ และมีภาระต่างๆ ภายในบ้าน ต้องการจ้างพนักงานประจำ เพื่อจัดหาผู้ดูแลมารดาของตนซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และป่วยนอนรักษาตัวที่บ้าน (ผู้ป่วยนอนติดเตียง) จึงมีผู้สนใจติดต่อเข้ามา ตามเบอร์โทรที่แจ้งไว้ตามโพสต์ประกาศหาคนดูแลผู้สูงอายุ ต่อมาผู้ต้องหารายดังกล่าว พยายามขอเข้าทำงาน ตนจึงรับเข้าทำงาน ภายหลังจากพูดคุย ซักถามถึงประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงวัย จึงให้เริ่มงาน วันที่ 11 มิถุนายน 2567 เป็นต้นมา จนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ตนและภรรยาสังเกตเห็นมารดาวัย 83 ปี มีรอยฟกช้ำตามใบหน้า และลำตัว จึงได้เฝ้าดูพฤติการณ์ของผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 และเก็บรวบรวมหลักฐานผ่านกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งภายในห้องที่มารดานอนป่วย จึงพบพฤติการณ์ที่สะเทือนใจ โดยพบว่า น.ส.นภสร ได้ทุบตี มารดาของตนอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ตั้งแต่รับเข้าทำงาน จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 เมื่อสอบถามก็ยอมรับทำร้ายแม่ตนจริง ไม่มีความสำนึกที่จะเข้ามาขอโทษ แต่ยังมีพฤติกรรมท้าทาย จากนั้นได้ตรวจสอบสมาชิกในกลุ่ม “นายจ้าง หาคนดูแลผู้สูงอายุ” พบผู้เสียหายให้ข้อมูลจำนวนมาก ถึงพฤติการณ์คล้ายคลึงกันของผู้ต้องหารายนี้ ตนจึงเข้าแจ้งความในวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 และเข้าไปร้องทุกข์ยังเพจ “สายไหมต้องรอด” เพื่อให้การช่วยเหลือและรับเป็นคำร้องทุกข์ที่เป็นภัยอันตรายต่อสังคม

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแต่ให้การยอมรับ ว่าบุคคลดังกล่าวในภาพและชื่อสกุล เป็นตนเองตามหน้าหมายจับ แต่ปฏิเสธการทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่ทำงานรับดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยพักตามบ้านนายจ้างที่ให้ดูแลกับเคส และปฏิเสธมีพฤติการทุบตี ทำร้ายใคร ตนรักผู้สูงอายุ และรักเด็ก เป็นคนธรรมะเข้าวัดฟังธรรมมาตลอด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และผู้เสียหายร้องทุกข์ยังพบว่ามีผู้เสียหายอีกบางราย ที่ถูกผู้ต้องหารายดังกล่าวนี้ ก่อเหตุในลักษณะคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังมีข้อมูลยืนยันจากใบแจ้งความฯ และได้ลงบันทึกประจำวัน การทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ฯ อันก่อให้เกิดความเสียหายทั้งร่างกาย และจิตใจแก่ญาติ และผู้สูงอายุตามบ้านที่ผู้ต้องหาเข้าไปดูแลอีกหลายคำร้องทุกข์ฯ จากนั้นจึงได้ทำบันทึกการจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-416-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้