เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่าย 2 บอสจีนแก๊งคอลฯ ย่านรัชดา

กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – สืบนครบาล นั่งรถเมล์เต็มคัน เปิดปฏิบัติการทลายรังปลวก เครือข่าย 2 บอสจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดบริษัทวัสดุก่อสร้าง หลอกเล่นเกมวงล้อลุ้นไอโฟน 16 ล้วงข้อมูลประชาชนกว่า 88,000 ราย


พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ร่วมกับสืบนครบาล และ บก.น.2 กว่า 50 นาย ร่วมกันเปิดปฎิบัติการ “ทลายรังปลวก” พร้อมนำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.77/2568 ลงวันที่ 14 ก.พ.68 เข้าตรวจค้น บริษัท ลัคคิง จำกัด ตั้งอยู่ ชั้น 8 ภายในอาคารแห่งหนึ่ง ถนนรัชดาภิเษกซอย 11 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ พร้อมจับกุมนาย MR.ZHANG HONGXIANG อายุสัญชาติจีน บอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบนถนนรัชดา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

พร้อมตรวจยึดของกลาง ป้ายบริษัท ลัคคิง จำกัด, บัตรห้อยคอพนักงาน 13 ใบ, เสื้อโปโล โลโก้ลายปัก LUCKKING จำนวน 8 ตัว, วงล้อเสี่ยงทาย จำนวน 1 อัน, แผ่นสติกเกอร์คิวอาร์โค๊ดไลน์ LUCKKING 1 แผ่น, แผ่นคูปองเติมเงิน LUCKKING จำนวน 10 ใบ, โบชัวร์ จำนวน 1 ชุด, อุปกรณ์สำหรับไลฟ์สด 1 ชุด, เอเทอร์นอล ฮาร์ดดิส จำนวน 3 อัน, ไข่ทองสำหรับจับรางวัล จำนวน 1 กล่อง, สมุดโน๊ต จำนวน 13 เล่ม, เอกสารที่เกี่ยวข้องของบริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวนหนึ่ง และตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้


พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ขยายผลการจับกุม 2 บอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ สน.หัวหมาก คือ นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 29 ปี และ นายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Li Weijie) อายุ 30 ปี ทั้ง 2 สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบอสคอลเซ็นเตอร์ในตึก 25 ชั้น เมืองปอยเปต โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านหรูย่านรัชดาภิเษก จากนั้นมีการขยายผลโดยพบกระเป๋าวอลเล็ตลับ จนนำไปสู่การอายัดเงินได้จำนวนกว่า 2.4 ล้าน USDT หรือเป็นจำนวนประมาณ 84 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดและอายัดไว้ได้ทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท และยังพบหลักฐานว่าทั้งสองพัวพันกับการเป็นธุระ จัดหาคนไปยังพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านผ่านทาง อ.แม่สอด จ.ตาก ต่อมาพบหลักฐานจากข้อมูลโทรศัพท์บอสชาวจีนทั้ง 2 ราย ว่าได้เป็นแอดมินควบคุมระบบเว็บไซต์ที่ใช้หลอกเอาข้อมูลคนไทย โดยมีการเปิดบริษัทชื่อว่า “บริษัท ลัคคิง จำกัด” ไว้บังหน้า เพื่อใช้ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล นำไปขายให้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริษัท พบบอสชาวจีน 3 ราย โดย 2 ราย ที่ถูกจับไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.

ต่อมา พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 กก.สส.บช.น. นำกำลังไป จับกุม MR.ZHANG HONGXIANG สัญชาติจีน บอสคนสุดท้าย ของบริษัทลัคคิง ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบนถนนรัชดา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยรัชดาฯ 11 และจากการตรวจค้นห้องพักพบของกลางหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 9 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง, แฟ้มเอกสารบริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวน 5 แฟ้ม, แฟลชไดรว์จำนวน 6 อัน, ใบรับเงินเดือนจำนวน 1 ชุด และสติกเกอร์บริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวน 1 ชุด

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สำหรับบริษัทแห่งนี้ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับการขายวัสดุก่อสร้างได้เพียง 3 เดือน โดยบริษัทแห่งนี้จะมี 2 บอส มาประชุมเพื่อวางแผนในการหลอกลวงประชาชนด้วยการออกอุบายเล่นเกมวงล้อ โดยผู้ที่ชนะจะได้รางวัลใหญ่เป็นไอโฟน 16 ซึ่งผู้เล่นจะต้องติดต่อเล่นเกมผ่านช่องทางไลฟ์สดในแอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อก โดยเสียค่าเข้าเล่นเกมครั้งละ 100 บาท เมื่อถูกรางวัลทางพนักงานจะติดต่อกลับโดยมีสคริปต์ที่ใช้ในการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะขอข้อมูลส่วนบุคคลและเลขหลังบัตรประชาชนอ้างเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนในการรับรางวัล โดยมีข้อมูลรั่วไหลกว่า 88,000 รายชื่อ ในห้วงเวลาเพียง 3 เดือน เบื้องต้นพบผู้เสียหายในระบบจํานวน 85 ราย ความเสียหาย 55 ล้านบาท ตามยึดทรัพย์ได้ 84 ล้านบาท อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อเฉลี่ยทรัพย์สินคืนผู้เสียหาย


หลังจากนี้ตํารวจจะขยายผลต่อว่าใน 88,000 รายชื่อนั้น ถูกนําไปใช้ในการกระทําความผิดแล้วหรือไม่ และเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบว่าเป็นบริษัทที่เชื่อมโยงกับ “แก๊งโอริโอ้” ด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีการรับสารภาพกับตํารวจว่าซื้อข้อมูลมาจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อใช้ในการประกาศไล่เช็คบิลคู่อรินอกเกม Five M

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การตรวจค้นและจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลร่วมกับชุด PCT และ สน.สุทธิสาร ได้สนธิกําลังนั่งรถเมล์ ขสมก. เปิดปฏิบัติการ “ทลายรังปลวกบอสจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์” โดยนั่งมาจากศูนย์สืบนครบาลมายังบริษัทดังกล่าวที่ตั้งอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก เมื่อมาถึงได้เข้าจู่โจมทันที สามารถจับกุมพนักงานคนไทยกว่า 10 ราย แต่มีบางส่วนหลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวดําเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ ฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงให้เล่นเกมต่าง ๆ บนแอปพลิเคชั่น และเมื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคลไป อาจถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปใช้หลอกลวง และเสียทรัพย์สินได้

เบื้องต้นจึงนำตัว MR.ZHANG HONGXIANG ดำเนินคดีในข้อหา “เป็นบุคคลต่างอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง” และ“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ส่วนพนักงานทั้ง 10 ราย ดำเนินคดีข้อหา จัดให้มีการเล่นพนัน ตาม พ.ร.บ.การพนัน ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]