กรุงเทพฯ 8 พ.ย. – ผบช.น.สั่งตั้งกรรมการสอบ ผกก.สน.บางซื่อ หลังพบข้อสงสัยในการรับแจ้งความคนสนิท “ทนายตั้ม” แจ้งความถูกแก๊งสแกมเมอร์ดูดเงินกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (8 พ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้ลงนามในหนังสือเลขที่ 0015/437 ลงวันที่ 8 พ.ย. 67 มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานจเร) ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ หลังจากที่ถูกตำรวจกองปราบปรามเชิญตัวไปให้ข้อมูลกรณีที่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหาย คือ นางสาวสารินี อายุ 30 ปี ภรรยาของนายนุ คนสนิทของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ ว่า ถูกดูดเงินจากบัญชีที่ใช้โอนบิทคอยน์ เพราะโอนเงินไปให้สแกมเมอร์ ที่อ้างเป็นดาราจีนตามที่ทนายตั้ม อ้างว่า พี่อ้อย วานให้โอนเงินเป็นสกุลบิทคอยท์
ทั้งนี้ ในรายละเอียดบันทึกประจำวันระบุว่า นางสาวสารินี มีกระเป๋าเงินออนไลน์ชื่อบัญชีหนึ่งใน Gmail และโอนเงินสกุลบิทคอยน์ให้กับบุคคลไม่ทราบชื่อสกุล โดยใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดบัญชีหนึ่ง จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2,276,400 บาท นอกจากนี้ ปรากฏว่าหลังจากนั้นบัญชีที่เชื่อมต่อกับ Gmail ของ น.ส.สารินี รวมถึงแอปพลิเคชัน กระเป๋าเงินออนไลน์ถูกระงับ ไม่สามารถเข้าได้อีกเลย แต่ “ทนายตั้ม” กับไปแจ้งพี่อ้อย ว่า ถูกดูดเงินจากกระเป๋าดิจิตอลกว่า 39 ล้านบาท จนเป็นที่มาที่ทำให้พี่อ้อยโอนเงินคืนเพื่อรับผิดชอบเข้าบัญชีธนาคารของนางสาวสารินี จำนวน 39 ล้านบาท ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ตามที่ทนายตั้มร้องขอ จนกระทั่งเป็นเรื่องราวอื้อฉาวใหญ่โต ว่า งานนี้ทนายตั้ม สร้างเรื่องสร้างขบวนการมาหลอกเงินพี่อ้อย
ขณะเดียวกัน ตำรวจกองปราบปรามชุดคลี่คลายคดีของพี่อ้อย พบข้อพิรุธหลายอย่างของการแจ้งความในเรื่องนี้ของผู้เสียหาย และรวมถึงข้อสงสัยในการรับแจ้งความของ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ จึงได้มีการเชิญตัว พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ มาให้ถ้อยคำรายละเอียดในข้อสงสัยต่าง ๆ ที่ชุดคลี่คลายคดีสงสัย จึงเป็นเหตุให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล ดังกล่าว.-414-สำนักข่าวไทย