ผบช.น.คาดกลุ่มคนร้ายก่อเหตุยิง “ต่าย คอลาย” เสียชีวิต มีมากกว่า 20 คน

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – ผบช.น.แถลงกรณีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุยิง “ต่าย คอลาย” เสียชีวิต หลังจากมีการขับ จยย.ล่อออกจากร้านอาหาร เบื้องต้นคาดคนร้ายมีมากกว่า 20 คน ยันเร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุด


พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงกรณีที่มีกลุ่มคนร้าย จำนวน 23 คน ขี่จักรยานยนต์ยั่วยุล่อลวงนายวรเชษฐ หรือเฮิร์ท และนายเจษฎา ให้ขับรถยนต์ออกมาจากร้านอาหาร ก่อนจะมีอีกกลุ่มคอยดักใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เป็นเหตุให้ นายเจษฎา เสียชีวิต ที่บริเวณสามแยกไฟแดงลาซาล-แบริ่ง (ตัดใหม่) แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า โดยในปกติกลุ่มผู้ต้องหาไปอยู่ในพื้นที่รอยต่อ สมุทรปราการ – กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 และมีประวัติในการก่อเหตุในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 มาโดยตลอด แต่ในครั้งนี้เหตุการณ์มาเกิดในพื้นที่ของตำรวจนครบาล จึงทำให้ในช่วงเช้าวันนี้มีการเปิดปฏิบัติการค้น 5 จุด และตรวจค้นผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งมีทั้งหมด 2 คน จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนจำนวนหลายกระบอกเนื่องจากหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหานั้นชอบสะสมปืน และปืนส่วนใหญ่ก็มีทะเบียนแต่จะต้องตรวจสอบว่าเลขทะเบียนนั้นตรงกับกรมการปกครองหรือไม่ รวมถึงพบรถจักรยานยนต์มอเตอร์ไซต์ที่ใช้ในการก่อเหตุบางส่วน และจากการตรวจค้นครั้งนี้พบหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งจะสามารถขยายผลไปยังกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ได้ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนผู้ต้องหาก่อนที่จะออกหมายจับ ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 20 คน โดยจะเร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดเผยว่าภายในพื้นที่ของกลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ภายใน สภ.สำโรงเหนือ ถือว่าเป็นพื้นที่ ที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้กบดาน พบพฤติการณ์คนร้ายมีการปล่อยเงินกู้และผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ 1 ราย เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และยอมรับว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่อุกอาจมีการนำถุงดำไปครอบกล้องวงจรปิด รวมถึงข่มขู่ประชาชนในพื้นที่ ถ้าหากให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ก็จะไปเผาบ้านจนสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน ซึ่งตอนนี้ทางนครบาลได้มีการประสานงานร่วมกับตำรวจภูธรภาค 1 รวมถึงตำรวจในพื้นที่ เพื่อที่จะทำการกวาดล้างกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ให้หมดไป เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุต่อเนื่องแบบนี้ขึ้นอีก พร้อมเผยพบประวัติผู้ต้องหาบางคน เคยเป็นนักศึกษา ช่างกลในสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบัน ส่วนที่รวมกลุ่มตั้งแก๊งกันขึ้นมาจะเรียกว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมเลยหรือไม่นั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ มองว่ามีการวางแผนเป็นอย่างดีเหมือนกัน มีการไปรวมตัวกันที่บ้านพักที่เข้าค้นภายในวันนี้ และหลังเกิดเหตุก็มารวมตัวกันก่อนจะแยกย้ายหลบหนี มีการหลอกล่อผู้เสียชีวิต ให้ขับรถตามออกไปก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ


เมื่อถามว่าในการเข้าไปจับกุมมีการตัดไฟภายในบ้านผู้ต้องสงสัยหรือไม่ พล.ต.ท.นพศิลป์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาจะรู้ตัวจึงได้มีการปิดบ้านปิดไฟ และหลบหนี จึงต้องประสานไปที่ผู้ใหญ่บ้านเพื่อเป็นพยานในการตรวจค้น ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มเป้าหมายจะออกมาเปิดประตูให้กับเจ้าหน้าที่. -414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย