กรุงเทพ 30 ต.ค. – ผอ.สศค.ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุคดีดิไอคอนจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ จะต้องพิจารณาดูใน 3 องค์ประกอบ โดยล่าสุดได้รับการประสานจากดีเอสไอให้ร่วมสอบปากคำผู้กระทำผิดแล้ว
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงคดีดิไอคอน จะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ว่า คดีนี้ล่าสุดได้รับการประสานงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอแล้ว โดยทางดีเอสไอได้ประสานงานมาเพื่อร่วมกันสอบปากคำผู้กระทำผิด ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลัง จะต้องมีการพิจารณาข้อเท็จจริงต่าง ๆ รวมทั้งต้องพิจารณาว่าอยู่ในกฎหมาย พระราชกำหนด การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบใน 3 องค์ประกอบ คือ 1.มีการโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่ 2.กำหนดผลประโยชน์การตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และ 3.ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ได้มีการค้าขายจริงแต่นำเงินจากแหล่งอื่นมาให้ผู้เสียหาย
โดยหลังจากนี้ไป ทาง สศค.จะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบคดีร่วมกับดีเอสไอ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอเพิ่งจะโทรมาว่าจะต้องทำงานร่วมกันซึ่งทาง สศค.ก็ยินดีให้ความร่วมมือเพราะเป็นคดีใหญ่และอยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ระยะเวลาผ่านมาแล้วถึง 40 ปี พระราชกำหนดฉบับนี้อาจจะไม่มีความทันสมัยจะต้องมีการทบทวนเพื่อแก้ไขพระราชกำหนดให้เป็นปัจจุบันและทันท่วงทีซึ่งทีมกฎหมายของกระทรวงการคลังจะต้องไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแก้ไขและจะรีบนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นรูปธรรมและเพื่อความรวดเร็วจะต้องออกเป็นพระราชกำหนดที่จะนำไปใช้ได้ทันที. -513-สำนักข่าวไทย