30 ต.ค. – สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดสุวรรณดาราราม และวัดนิเวศธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 17.14 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดสุวรรณดาราราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดสุวรรณดาราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมชื่อวัดทอง สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เมื่อปี 2275 โดยสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และภายหลังทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดทอง พร้อมพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสุวรรณดาราราม เพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์แด่สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก และพระบรมราชชนนี วัดนี้ถือเป็นวัดประจำราชวงศ์จักรี ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ไม่มีชื่อ
ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามพระประธานประจำพระอุโบสถว่า “พระพุทธสุวรรณวชิโรภาส ทศมินทราธิราชบพิตร” มีความหมายว่า พระพุทธปฏิมากร ทรงมีรัศมีแห่งทองและเพชร อันพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ทรงบูชา
พระอุโบสถมีลักษณะแอ่นโค้ง คล้ายท้องเรือสำเภา เป็นการเปรียบพระพุทธศาสนาดั่งนาวาธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์สมัยอยุธยา โอกาสนี้ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ในการนี้ พระเมธีวชิรธาดา เจ้าอาวาสวัดสุวรรณดาราราม ถวายพระพุทธสุวรรณวชิโรภาส ทศมินทราธิราชบพิตร” (จำลอง) ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว แด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปพระวิหาร ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธชินราชจำลอง พระประธานพระวิหาร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามพระประธานว่า “พระพุทธวชิรญาณบพิตร” พระวิหารสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 มีจิตรกรรมฝาผนังรูปยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้านบนของผนังรายล้อมไปด้วยภาพเทพพนมนับร้อยองค์ลอยอยู่ในวิมาน
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อพระพุทธสุวรรณวชิโรภาส ทศมินทราธิราชบพิตร (จำลอง) เนื้อสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 29 นิ้ว ซึ่งวัดและผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันจัดสร้างขึ้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สำหรับอัญเชิญไปประดิษฐานด้านหน้าพระอุโบสถ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว เพื่อพระราชทานแก่ผู้มีจิตศรัทธา วัดสุวรรณดารารามได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี 2478
เวลา 18.46 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อำเภอบางปะอิน ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยเสด็จด้วย
วัดนิเวศธรรมประวัติ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้ ตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน ก่อนสร้างวัด บริเวณนี้มีความสำคัญ เพราะเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินหลายพระองค์สืบมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างวัดขึ้นปี 2419 แล้วเสร็จปี 2421 เพื่อเป็นพระอาราม สำหรับทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเมื่อเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังบางปะอิน ตลอดจนมีพระราชประสงค์ที่จะบูชาพระพุทธศาสนา และเพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ ชมเล่นเป็นของแปลก ยังไม่เคยมีในพระอารามอื่น และเป็นของมั่นคงถาวรสมควรเป็นพระอารามหลวงในหัวเมือง ด้วยมีพระราชดำริว่า “ศาสนาไม่ได้อยู่ที่อิฐปูน การสร้างวัดในพุทธศาสนาไม่มีข้อบังคับว่าจะต้องสร้างเป็นรูปอย่างไร”
วัดมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ศิลปะสมัยกลางของยุโรป ทั้งกำแพง ซุ้มประตู หอระฆัง ศาลาการเปรียญ หมู่กุฏิ อาคารทุกหลังโดยเฉพาะพระอุโบสถของวัด มีโดมหอคอยปลายแหลมตามอย่างโบสถ์ในคริสต์ศาสนา บริเวณยอดโดมมีหอนาฬิกาและระฆังชุด เหนือขึ้นไปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธนฤมลธรรโมภาสเป็นพระประธาน ออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยมกับแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน บริเวณฐานชุกชีที่ประดิษฐานพระประธานก็มีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนในโบสถ์ ช่องหน้าต่างเป็นหน้าต่างโค้ง และเมื่อหันกลับมองบนฝาผนังด้านหน้าของพระประธาน จะเห็นพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องต้น ประดับด้วยกระจกสี
จากนั้น เสด็จออกยังมณฑลพิธี ถวายผ้าป่าหน้าพระอุโบสถ ทรงรับผ้าไตรจากหม่อมราชวงศ์ดำรงดิศ ดิศกุล ทรงพาดผ้าไตรระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ ทรงกล่าวคำถวายผ้าป่า เพื่อนำปัจจัยไปทำนุบำรุงพระอาราม ทรงวางผ้าไตรที่พานแว่นฟ้า พระราชวชิรสารสุธี (เอนก มนุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดนิเวศธรรมประวัติ พิจารณาผ้าป่า วัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย มีพระภิกษุจำพรรษา 21 รูป สามเณร 116 รูป. – สำนักข่าวไทย