กรุงเทพฯ 21 ต.ค. – ทองคำไทยสร้างราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทองแท่ง แตะ 42,800 บาท นายกสมาคมค้าทองคำ มองอาจแตะ 50,000 บาท
สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาทองคำเช้านี้จนถึง เวลา 10.26 น.ราคาปรับเปลี่ยน 2 ครั้ง ขึ้นราคารวม 250 บาท/บาททองคำ ขายออกทองคำแท่งบาทละ 42,800 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทบาทละ 43,300 บาท บนฐานราคาทองสปอต 2,730 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ค่าเงินบาท 33.17 บาท/ดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ ราคาทองคำสหรัฐ ปิดตลาดเมื่อวันที่ 18 ต.ค. สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.50 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 2,730.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นราคานิวไฮ จากแรงหนุนจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง, ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ โดยตลาดประเมิน หาก “โดนัลด์ ทรัมป์” คว้าชัย ก็สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก จึงพักเงินไว้ในทองคำบางส่วนเพื่อเป็นหลุมหลบภัย และตลาดยังคาดการณ์นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกลดดอกเบี้ยต่อเนื่องถึงปีหน้า แสดงให้เห็นว่าทองคำจะมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทองคำไม่ได้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องทำ All-time high โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตะวันออกกลาง โดยสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังรุนแรงขึ้น และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ รวมถึงจีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 10.65 ตัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ในขณะที่กองทุน ETF ทองคำกลับมาเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยในเดือน ก.ย. กองทุน ETF ทองคำ มีเงินทุนไหลเข้ามา 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการซื้อสุทธิ 18.4 ตัน ทำให้การถือครองสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,200 ตัน โดยราคาทองไทยมีแนวโน้มขึ้นไปอีกตามราคาทองคำโลกที่ปรับตัวขึ้นทำ All-Time high และอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำนอกจากราคาตลาดโลกแล้วยังมีผลจาก ค่าเงินบาทที่เปลี่ยนแปลงทุก 10 สตางค์ จะมีผลต่อราคาทองคำ 120 บาท ซึ่งเอกชนก็ไม่ต้องการเห็นค่าเงินบาทแข็งค่ามากการเกินไป โดยหากเทียบราคาทองคำเกิน 2,700 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำไทยน่าจะถึงบาทละ 45,000 บาท อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้หลายฝ่ายยังมองว่าราคาทองคำโลกหากขึ้นไปอีก ทองไทยก็น่าจะถึง บาทละ 5 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม ในแง่การขายปริมาณการขายไม่ได้เพิ่มขึ้นเพราะกำลังซื้อในประเทศ ถือว่าอยู่ในภาวะแย่ลง ทำสถิติแย่ที่สุด ยิ่งเกิดปัญหาน้ำท่วม ประชาชนก็นำเงินไปซ่อมแซมบ้าน ส่งผลให้คนลดการซื้อทองเพื่อการออม
ส่วนเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.14-33.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (10.27 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดปลายสัปดาห์ก่อนที่ 33.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนยฺวิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า เงินบาทได้อานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วนสอดคล้องกับบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังจากตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.00-33.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินในภูมิภาค การประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ของธนาคารกลางจีน ล่าสุดประกาศลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 3.1% จากระดับ 3.35% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 3.6% จากระดับ 3.85%. -511-สำนักข่าวไทย