รอแพทย์ประเมินสภาพจิตคนร้ายขโมยรถ หลังอ้างมีคนให้ขับออกไป

กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – มือก่อเหตุขโมยรถไล่ชนในห้างดังยังให้การภาคเสธ อ้างมีคนให้มาขับรถไป รอแพทย์ประเมินสภาพจิตก่อนพิจารณาแจ้งข้อหา


จากเหตุคนร้ายขโมยรถยนต์ป้ายแดงในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา ไล่ชนรั้วเหล็กหลบหนีไปพร้อมกับแมวในรถ 1 ตัว หลังตำรวจตามล่านานกว่า 8 ชั่วโมง จึงจับกุมได้ที่ซอยนาคนิวาส 16 เขตลาดพร้าว โดยผู้ก่อเหตุเป็นหญิง อายุ 39 ปี และพบน้องแมวมอร์ตี้นอนขดหลบอยู่ใต้เบาะรถด้วยความหวาดกลัว

ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ที่ห้องสอบสวน หวั่นจะเกิดการทำร้ายตัวเอง เนื่องจากช่วงจับกุมพูดจาวกวน อีกทั้งจากการตรวจสอบกับญาติพบว่า เคยมีประวัติและรับการรักษาอาการป่วยจิตเวชที่จังหวัดขอนแก่น และขาดการรักษามานานกว่า 1 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุหนีออกมาจากบ้านย่านธัญบุรีมาแล้ว 3 วัน ก่อนจะมาก่อเหตุขโมยรถในครั้งนี้


พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งข้อมูลจากพลเมืองดีว่าพบรถต้องสงสัยจอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของอพาร์ทเมนแห่งหนึ่งในซอยนาคนิวาส 16 และผู้ก่อเหตุก็อยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงติดตามเข้าควบคุมตัว จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การภาคเสธ รับสารภาพว่าขับรถจากไหนไปที่ไหน แต่ปฏิเสธขโมยรถ อ้างว่ามีคนให้มาขับรถออกไป เล่าเหตุการณ์ไปตามปกติ ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ นอกจากนี้ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุ ตลอดการสอบสวนมีการพูดคุยได้รู้เรื่อง ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว แต่จากการสอบถามกับญาติบอกผู้ก่อเหตุเริ่มมีอาการไม่ปกติมาประมาณ 2 เดือน พูดคนเดียว อารมณ์ไม่ดีถ้าถูกขัดใจ บางทีทำเหมือนมีองค์ร่างทรงลง ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างรอเอกสารประวัติการรักษาจากญาติ และจะต้องส่งตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลให้แพทย์วินิจฉัยสภาวะทางจิต ว่าช่วงก่อเหตุรู้ผิดชอบชั่วดีไหม ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ แต่หากแพทย์ประเมินแล้วสภาพจิตไม่ปกติก็ต้องเข้ารับการบำบัดจนกว่าพร้อมเข้าสู่การดำเนินคดีไปตามกฎหมาย และจากการตรวจประวัติ ไม่พบสารเสพติด ประวัติต้องโทษ

ทั้งนี้ เมื่อวานสอบปากคำไปแล้ว 7 ปาก เจ้าของรถ พยานเห็นเหตุการณ์ จนท.ของศูนย์การค้า โดยวันนี้จะมีการสอบปากคำเพิ่ม 3 คน เป็นเจ้าของรถของผู้เสียหายรายอื่น ครอบครัวผู้ก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ก่อเหตุเคยเข้าไปที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ย่านพหลโยธิน อ้างเป็นลูกเจ้าของโรงแรมจะเปิดห้องเข้าพัก แต่พนักงานไม่เชื่อจึงเชิญออกและไม่ได้ให้เข้าพักแต่อย่างใด ส่วนข้อหาที่เข้าข่ายการก่อเหตุครั้งนี้ 2 ข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร และทำให้เสียทรัพย์.-416-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”