ย้อนรอยเส้นทางรักลวงของ “น้ำมนต์”

อสมท 8 ก.ย.-ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ “น้ำมนต์” หลอกผู้ชายแต่งงานแล้วเชิดสินสอดหนีไปกี่คน เป็นใคร อยู่พื้นที่ไหนกันบ้าง เราไปย้อนดูกัน



คดีนี้เริ่มได้รับความสนใจเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อมีคนโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยผู้ชาย ให้ระวังสาวที่ชื่อ “น้องพร” หรือ “น้ำมนต์” เพราะเธอหลอกให้ผู้ชายแต่งงาน สูญเงินสินสอดมาแล้วนับแสนบาท จากนั้นก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคนทยอยโพสต์แฉว่า เคยถูกหลอกลักษณะนี้เหมือนกัน ก่อนรวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม


ผู้ชายคนแรกที่ถูก “น้ำมนต์” หลอก คือเมื่อปี 2554 คือ นายชาติ ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย คนที่ 2 คือ นายมนตรี ถูกหลอกไปแต่งงานที่คาซารูน่าบางพระ จ.ชลบุรี เมื่อปี 2555 สูญสินสอดไป 100,000 บาท และถูกหลอกร่วมทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สูญเงินไปอีก 400,000 บาท

จากนั้นใน ปี 2558 มีเหยื่อถูกหลอกเพิ่มอีก 2 คน คนแรก คือ นายประสาน คนนี้ถูกหลอกเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดย “น้ำมนต์” ทักเฟซบุ๊กมาก่อนหลอกแต่งงาน สูญค่าสินสอดไป 400,000 บาท และวันที่ 20 ธันวาคม ปีเดียวกัน นายอนุชิต ถูกหลอกไปแต่งงานที่อุดรธานี สูญเงินสินสอดประมาณ 500,000 บาท


ปี 2560 “น้ำมนต์” ยังไม่หยุดพฤติกรรม หลอกเหยื่อเพิ่มอีก 2 คน ประกอบด้วย นายวิพล คบหากันถึงขั้นลองชุดแต่งงานเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้แต่งหลอกเอาสินสอดไปก่อน 600,000 บาท ส่วนพี่สาวนายวิพลถูกหลอกทำธุรกิจผลไม้สูญเงินไป 160,000 บาท เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ จ.ยโสธร

ขณะที่ นายปรเมศร์ เหยื่อคนที่ 6 คนนี้ก็คบหากันถึงขั้นลองชุดแต่งงาน ตั้งสินสอดไว้ 200,000 บาท ทองคำอีก 1 บาท แต่ยังไม่ได้ทันได้แต่ง เดือนมีนาคมปี 2560 “น้ำมนต์” หอบสินสอนของหนีไปแต่งงานกับหนุ่มอีกคน ชื่อ นายวิชิต นายปรเมศร์โกรธ จึงไปค้นหาชื่อนายวิชิต ทางเฟซบุ๊ก แต่ไปพบชื่อน้องสาวนายวิชิตแทน ก็ตามไปต่อว่ากล่าวหาพี่ชายแย่งแฟนตัวเองไป กรณีนี้ “น้ำมนต์” ให้เหตุผลนายปรเมศร์ว่า เลือกไปแต่งกับนายวิชิต เพราะให้สินสอดมากกว่า

ส่วนนายวิชิต แม้จะได้แต่งงานกับ “น้ำมนต์” ที่พื้นที่ จ.ปทุมธานี ด้วยสินสอด 400,000 บาท ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 แต่ไม่นานถูกทิ้ง ต่อมา “น้ำมนต์” ได้ไปหลอกนายไพรัตน์ แต่งงานในพื้นที่ปทุมธานี โดยเป็นบ้านหลังเดียวกับที่แต่งกับนายวิชิต ครั้งนี้นายไพรัตน์สูญเงินสินสอดไป 180,000 บาท รถกระบะ 1 คัน เงินมัดจำค่าแผงผลไม้อีก 120,000 บาท

และผู้ชายคนล่าสุดที่ถูก “น้ำมนต์” หลอกให้หลงรักจนตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือ นายพงษ์ธาริน หนุ่มคนนี้ได้ให้สินสอดในวันแต่งงานไป 100,000 บาท ทองคำหนัก 2 บาท ก่อน “น้ำมนต์” จะหอบสินสอนหลบหนีไป

คดีนี้มีเหยื่อหลงเชื่อคำหวานอาบยาพิษของน้ำมนต์ เบื้องต้น 14 คน โดย 9 คนยอมให้เปิดเผยรายชื่อ ส่วนอีก 5 คนยังไม่เข้าแจ้งความ แต่มีรายงานว่า 2 ใน 5 เป็นชาว จ.ชลบุรีและปราจีนบุรี สูญเงินสินสอดไปนับแสนบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง