ใช้ ‘น้ำมนต์’ รักษาโรคผิวหนัง แพทย์เตือนเสี่ยงติดเชื้อ

กทม.1มิ.ย.-สถาบันโรคผิวหนัง เตือนการใช้น้ำมนต์รักษาโรคผิวหนัง เสี่ยงติดเชื้อ ทำให้การรักษามีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น และอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้


นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการแชร์ข้อความผ่านสื่อเรื่องการใช้น้ำมนต์รักษาผู้ป่วยโรคผิวหนังอย่างต่อเนื่อง กรมการแพทย์จึงขอให้ข้อมูลแก่ประชาชนเพื่อป้องกันความเชื่อที่ว่าการใช้น้ำมนต์สามารถรักษาโรคผิวหนังให้หายได้ เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่าการรักษาโรคผิวหนัง ต้องมีความระมัดระวังเนื่องจากเมื่อผิวหนังเกิดโรคต่าง ๆ ขึ้น เช่น งูสวัด แผลน้ำร้อนลวก หรือการอักเสบอื่น ๆ ผิวหนังบริเวณนั้น ๆ มักมีการปริแยก ซึ่งเป็นช่องทางที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย การใช้ยาเพื่อการรักษายังต้องมีการฆ่าเชื้อและการจัดเก็บแบบปลอดเชื้ออย่างดีก่อนนำมาใช้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำเติม ดังนั้น การใช้น้ำมนต์ ซึ่งไม่มีการดูแลเรื่องความสะอาด และใช้ปากอมพ่นใส่ตรงจุดที่มีรอยปริแยกของผิวหนัง จึงเป็นความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มเติม


พญ.มิ่งขวัญ  วิชัยดิษฐ  ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า ปกติผิวหนังของมนุษย์สามารถป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ทางผิวหนังได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อร่างกายได้รับบาดเจ็บจนผิวหนังเกิดรอยปริแยกขึ้น        ไม่ว่าจากการเกา การกระทบกระทั่งจนเกิดรอยถลอก หรือน้ำร้อนลวกเป็นแผลพุพอง การป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายบริเวณนั้นจะสูญเสียไป ดังนั้นการใช้น้ำมนต์เป่าไปยังจุดที่เป็นโรคงูสวัด และแผลน้ำร้อนลวกจึงมีโอกาสติดเชื้อโรคเพิ่มเติมสูง  โรคงูสวัด เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ผู้ป่วยมักจะเป็นในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันโรคลดลง ความเสี่ยงในการติดเชื้ออื่นเพิ่มเติมจึงมีได้ง่าย เช่นเดียวกับแผลจากน้ำร้อนลวก ผิวหนังมีอาการบาดเจ็บเป็นแผล การใช้สิ่งที่ไม่สะอาดสัมผัสแผลโดยตรง อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ จนเข้าสู่กระแสโลหิตเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงต่อระบบอื่น ๆ ของร่างกาย 


‘ขอแนะนำว่าการรักษาโรคทางด้านผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้แพทย์ตรวจรักษาตามแนวทางและขั้นตอนที่ถูกต้องเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย  เพื่อให้ผิวหนังของผู้ป่วยกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด’ พญ.มิ่งขวัญ กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง