กรมการแพทย์หนุนกัญชารักษาโรคผิวหนัง-เวชสำอาง

กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – สถาบันโรคผิวหนังชี้คุณสมบัติของกัญชาทางการแพทย์รักษาโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงินโรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง สิว โรคมะเร็งผิวหนังบางชนิด โรคผมร่วงบางชนิด และใช้เป็นส่วนประกอบในเวชสำอางได้


นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวว่า กัญชาเป็นพืชสกุล Cannabis มีสารประกอบแคนนาบินอยด์ (cannabinoid) มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และสรรพคุณรักษาโรค ระบบการทำงานของ cannabinoid ในผิวหนัง มีความเกี่ยวข้องกับรักษาสภาวะสมดุลของผิวหนัง ความแข็งแรงของผิวหนัง รวมถึงการซ่อมแซมตนเองของผิวหนัง

สารออกฤทธิ์สำคัญในกัญชา คือ 1. Delta-9-Tetrahydrocannabinol (THC) สาร THC ในกัญชามีผลต่อจิตประสาท แต่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับ ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และกระตุ้นให้อยากอาหาร 2.Cannabidiol (CBD) สาร CBD ในกัญชามีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ลดการชักเกร็ง ช่วยให้สงบ ผ่อนคลาย และมีคุณสมบัติยังยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกหลายชนิดในหลอดทดลอง  3.Terpenes สารเทอร์ปีนในกัญชาจะให้กลิ่นและรสชาติเฉพาะของกัญชา มีคุณสมบัติช่วยบำบัดรักษาโรค และยังเป็นตัวเสริมฤทธิ์ โดยทำงานร่วมกับสารแคนนาบินอยด์


พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสรรพคุณต้านการอักเสบ (anti-inflammation) ของสารประกอบในกัญชา ทำให้เริ่มมีความสนใจในการนำกัญชามารักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง สิว โรคมะเร็งผิวหนังบางชนิดโรคผมร่วงบางชนิด เป็นต้น มีการค้นพบว่าการทำงานของ cannabinoid ในผิวหนังมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการรักษาสภาวะสมดุลของผิวหนัง ความแข็งแรงของผิวหนัง ตลอดจนการซ่อมแซมตนเองของผิวหนัง มีฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกัน (immunomodulatory effects) ตลอดจนฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant properties) นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่สนับสนุนว่าสารประกอบในกัญชาสามารถกระตุ้น CB1 และ CB2 receptor ที่อยู่บริเวณเส้นประสาทรับความรู้สึกของผิวหนังและเซลล์ผิวหนัง สามารถช่วยลดอาการคันได้เป็นอย่างดี

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า สถาบันโรคผิวหนังเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา และพัฒนากัญชา เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ และนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเวชสำอาง โดยจะเลือกใช้เฉพาะสาร cannabidiol (CBD) และ terpenes เนื่องจากไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท จึงมีความปลอดภัยในการใช้มากกว่า THC วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับอาการแต่ละโรค โดยส่วนใหญ่ใช้เป็นยาทา และอาจมีการรับประทาน หรือหยดน้ำมัน CBD ร่วมด้วยในการรักษา สารสกัดกัญชานอกจากจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคทางผิวหนังแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เวชสำอางได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

KNLA เข้าโจมตีทั้งกลางวัน-กลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยังระอุ กกล. KNLA เข้าโจมตี ทั้งกลางวันและกลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

ไฟไหม้โรงงานยาง วอดเกือบหมด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงงานยาง ในพื้นที่เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พนักงานกว่า 50 ชีวิต วิ่งหนีออกมาได้ทัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รวบผู้ช่วยทันตแพทย์ ลักทอง 16 บาท ในหมู่บ้าน

รวบสาวแสบผู้ช่วยทันตแพทย์ ย่องเข้าบ้านพัก ย่านนนทบุรี ลักทอง 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เอาเงินไปใช้หนี้และวิ่งเต้นคดีความ สอบประวัติ พบก่อเหตุในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง