ชาวขอนแก่น แห่ถอนเงินสด 10,000 บาท

ขอนแก่น 25 ก.ย. – บรรยากาศวันแรกของประชาชนกลุ่มเปราะบาง หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้พิการที่เลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0 ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ของรัฐบาล จะได้รับเงินสด 10,000 บาท ทำให้ประชาชนใน จ.ขอนแก่น ต่างเดินทางมาที่ธนาคารเพื่อถอนเงินสดไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดีใจสมกับการรอคอยมาตั้งนาน


บรรยากาศหน้าธนาคารออมสินย่านศาลากลาง จ.ขอนแก่น พบประชาชนที่ได้รับเงิน 10,000 บาท มารอถอนเงินสดตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่จะมาถอนเงินผ่านสมุดบัญชีธนาคาร

นางพิศมัย ทิพดง อายุ 62 ปี มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ข้อมูลว่าวันนี้เดินทางมาพร้อมหลาน เพื่อถอนเงินสดทั้งหมดจำนวน 10,000 บาท นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยหลานเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบสิทธิให้ และพามาธนาคารออมสินเพื่อทำธุรกรรม ช่วงแรกๆ ยังสับสนกับขั้นตอน และติดตามข่าวตลอดว่าจะได้รับเงินวันไหนจนกระทั่งวันนี้เงินเข้าจริงๆ


นายยุทธจักร ศรีคัฐมาน กลุ่มผู้พิการ อายุ 52 ปี มีบัตรคนพิการ กล่าวว่า ดีใจมากๆ ที่ได้รับเงิน ซึ่งเงินจำนวน 10,000 บาท ตนได้ถอนจากบัญชีธนาคารอื่นจำนวน 9,000 บาท และจะนำมาฝากออมทรัพย์กับธนาคารออมสิน เพื่อต่อยอดการออม โดยช่วงแรกๆ ยังมีความสับสนเนื่องจากมีกระแสว่าจะไม่ได้รับเงินดังกล่าว ตนมองว่ามีประโยชน์กับคนที่ไม่มีรายได้ จะสามารถนำไปต่อยอดลงทุน หรือใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันได้และเป็นจำนวนเงินที่เยอะสำหรับคนที่ขาดรายได้

ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ได้ให้ข้อมูลว่า ช่วงเช้านี้ยังไม่พบปัญหาขัดข้องทางระบบ ส่วนประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับเงินในวันนี้ ส่วนใหญ่จะมาสอบถามก่อนหน้านี้แล้ว เช่น การตรวจสอบสิทธิ การปรับสมุดบัญชีธนาคาร และสอบถามการเปิดบัญชีพร้อมเพย์ มีบางส่วนยังไม่เข้าใจมาตรการการรับเงิน ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้แนะนำขั้นตอนและวันที่จะได้รับเงินตามลำดับเลขท้ายบัตรประชาชน และทางธนาคารออมสินได้มีนโยบายให้ผู้ที่ได้รับเงินจากรัฐบาลไม่ต้องหักชำระสินเชื่อแบบหักบัญชีอัตโนมัติ โดยต้องการให้ประชาชนได้รับเงินเต็มจำนวน ซึ่งจนขณะนี้ยังไม่พบปัญหาดังกล่าว

ส่วนบรรยากาศหน้าธนาคารกรุงไทยบริเวณศาลากลาง จ.ขอนแก่น มีประชาชนผู้สูงอายุจำนวนมากมารอถอนเงินสด โดยนายไทย ทรุ่มสีดา อายุ 88 ปี ถือบัตรคนพิการ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดินทางมากับภรรยา ได้รับเงิน 10,000 บาท ทั้งคู่ บอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้รับเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ยารักษาโรค ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก รอมานานและขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนในทุกกลุ่ม.-716-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”