กรุงเทพฯ 29 ต.ค.- “จุลพันธ์” เผยลุยแจกเงินดิจิทัล เฟส 2-3 ยกระดับสังคมดิจิทัล จ่อขยายมาตรการภาษีหนุนท่องเที่ยวเมืองรอง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ เพื่อตั้งอนุกรรมการชุดต่างๆ รวมถึงอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต หลังจากได้โอนเงินให้กลุ่มเปราะบาง 1 หมื่นบาท วงเงิน 1.45 แสนล้านบาท นับว่าช่วยลดภาระให้กับรายย่อยได้บางส่วน และยังหมุนเวียนอยู่ในระบบด้วยเงินสด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 3 ยอมรับยังต้องการมาตรการอื่นเติมเข้าไปอีก
หลังจากนี้ กระทรวงการคลัง เตรียมเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอเล็ต ให้กับกลุ่มลงทะเบียนไปแล้ว และต้องเปิดลงทะเบียนกลุ่มไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนเร็วๆนี้ ส่วนใหญ่ซ้ำกับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งโอนเงินให้แล้ว จากยอดที่เหลืออยู่ 26 ล้านคน โดยหักยอดกลุ่มเปราะบางออกไปแล้ว มองว่ากลุ่มนี้ไม่สูงมากนัก ส่วนผู้ลงทะเบียนไม่ทันจะไม่เปิดซ้ำอีก รัฐบาลเตรียมจัดแบ่งการกลุ่มโอนเงินให้เป็นเฟส 2 และโอนเงินดิจิทัลวอเล็ตเฟส 3 เพื่อเดินเครื่องยกระดับสังคมดิจิทัลผ่านนโยบายการคลคัง ส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล ภายใต้สมติฐานกรอบวงเงินงบประมาณจำกัด โดยไม่ให้กระทบกับกระบวนการจัดทำงบประมาณประจำปี
นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางอย่าง หากนำออกมาใช้แล้วไม่คุ้มกับการอัดงบประมาณออกไป มองว่าจะไม่คุ้มค่า แม้ว่าเม็ดเงินเท่ากัน หากช่วงเวลามไม่เหมาะสม เช่น ในช่วงเดือนธันวาคม เป็นช่วงไฮซีซั่นอยู่แล้ว และอัดเงินไปใช้ในช่วงท้ายฤดูกาลท่องเที่ยว ความคุ้มค่าและผลกระทบเกิดผลต่างกัน กระทรวงคลัง จึงต้องดูให้รอบคอบ ภายใต้งบประมาณมีจำกัด เพื่อหามาตรการ มากระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อดึงกำลังซื้อกลับไปยังภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วม ต้องหามาตรการมาช่วยฟื้นฟูให้กับประกอบกิจการได้เหมือนเดิม
สำหรับมาตรการภาษีส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง จะครบกำหนดในสิ้นเดือนพฤศจิกายน67 นี้ กระทรวงการคลัง กำลังศึกษาว่าจะขยายมาตรการดังกล่าว จะขยายออกไปอย่างไร เกิดความคุ้มค่าอย่างไร หลังจากที่ผ่านมา ครม. ได้เห็นชอบ มาตรการลดหย่อนภาษีปี 2567 เที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค. 67 – 30 พ.ย. 67 สามารถนำค่าใช้จ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15,000 บาท หักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่องออกไปเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ค่าใช้จ่ายที่เข้าร่วมมาตรการ ลดหย่อนภาษี 2567
- ค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบ ธุรกิจนำเที่ยว
- ค่าที่พักในโรงแรม
- ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย
- ค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
สำหรับเงื่อนไขการออกใบกำกับภาษี เที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด มาตรการลดหย่อนภาษี 2567
- ต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)
- เงื่อนไขทางภาษีเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด
มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง (บุคคลธรรมดา)
บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยหรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวใน “จังหวัดท่องเที่ยวรอง” ได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15,000 บาท หักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตั้งแต่ 1 พ.ค.-30 พ.ย. 67 ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season)
มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (นิติบุคคล)
นิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-30 พ.ย. 67 หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล หักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดใน “จังหวัดท่องเที่ยวรอง” หรือ ในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด และหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่กำหนด .- 515. สำนักข่าวไทย