fbpx

ทีเอ็มบีปรับเป้าจีดีพีปีนี้เป็นโตร้อยละ 3.5

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – ทีเอ็มบี ปรับจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 3.5 อานิสงค์จากส่งออกโตดี ห่วงรายเล็กไม่โต ฉุดบริโภคฟื้นตัวช้า


นายนริศ สถาผลเดชา เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี  กล่าวว่า ได้ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็นร้อยละ 3.5 สูงกว่าร้อยละ 3.3 ตามประมาณการเดิม ปัจจัยหลักมาจากการส่งออกที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 5.8 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2 จากคาดการณ์เดิม ซึ่งการส่งออกที่ดีขึ้นมีส่วนทำให้ภาคการผลิต และการลงทุนภาคเอกชนกลับมาเป็นบวกขยายตัวร้อยละ 1.6 ฟื้นตัวขึ้นหลังจากซึมมานานกว่า 3 ปี ส่วนการลงทุนภาครัฐ ขยายตัวร้อยละ 7.2 คาดว่าะเห็นเม็ดเงินลงทุนต่ำกว่าประมาณการเดิม โดยเฉพาะงบกลางปี 1.9 แสนล้านบาทที่คาดว่าจะเบิกได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 

นายนริศ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2561 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 3.8 มาจากการเติบโตแบบเล็กๆไม่โต แต่ใหญ่ๆโต โดยการส่งออกขยายตัวร้อยละ 4.8 สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเป็นการขยายตัวของบริษัทขนาดใหญ่ ร้อยละ 4.3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ  ส่วนที่เหลือร้อยละ 0.5 เป็นส่วนของบริษัทขนาดเล็ก  ดังนั้นผลของการส่งออกที่เติบโตส่วนใหญ่ตกอยู่กับบริษัทใหญ่ แต่บริษัทเล็กได้รับผลในวงจำกัด  ส่วนการลงทุนภาคเอกชนจะกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น  ขยายตัวร้อยละ 3.8 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิคส์  ปิโตรเคมี  ส่วนการบริโภคภาคเอกชน ขึ้นอยู่กับราคาสินค้าเกษตร ซึ่งคาดว่าราคาจะทรงตัวในระดังต่ำต่อเนื่องไปถึงปีหน้า บวกกับการจ้างงานในกลุ่มเอสเอ็มอียังต่ำ ทำให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 3.2 ใกล้เคียงกับปี 2560


สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นสู่ร้อยละ 2 ในปี 2561 ขณะที่ค่าเงินบาทจะมีทิศทางแข็งค่าขึ้นถึงระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 2561 ซึ่งเป็นระดังแข็งค่าสุดในรอบ 3 ปี  จากแนวโน้มเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง  และ ความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย