รัฐสภา 22 ส.ค.-เลขาฯ สภา ย้ำรับมอบอาคารรัฐสภาครบ 100% แล้ว ตั้งแต่ 4 ก.ค.67 แต่ยังมีข้อผูกพัน ผู้รับจ้าง 2 ปี ส่วนคดีในศาลปกครองกลาง เป็นคดีเก่าตั้งแต่ปี 63 ที่ชิโน-ไทย ฟ้องสำนักงานเลขาฯ เหตุรับมอบล่าช้า เชื่อชี้แจงได้
ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงการตรวจรับมอบอาคารรัฐสภา ว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังเหลือการรับมอบงานส่วนสุดท้ายที่ยังไม่ได้มีการรับมอบงาน เนื่องจากคณะกรรมการตรวจการจ้างมีความเห็นขัดแย้งกัน ระหว่างเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย ตนในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ จึงต้องวินิจฉัย ซึ่งจากการสอบถามจากทั้งผู้ควบคุมงาน ที่ปรึกษาและขอความเห็นจากสำนักกฎหมายในประเด็นที่มีความเห็นแย้งกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม2567 ที่ผ่านมา ตนได้วินิจฉัยเห็นตามคณะกรรมการฯ เสียงข้างมาก และได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างครบทั้ง 100% โดยได้มีหนังสือแจ้งไปยัง ผู้รับจ้างในการรับมอบงานรวมถึงหนังสือรับรองผลงาน ในการดำเนินการเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากมีการรับมอบงานทั้งหมดแล้วในขณะที่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการก่อสร้าง จะนำไปสู่การร้องเรียนในภายหลัง ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการส่งมอบงานในแต่ละอย่าง เมื่อรับมอบแล้วมีการเข้ามาใช้งาน ไม่ใช่ รอรับมอบ 100% แล้วค่อยมาใช้งานในคราวเดียว แต่เป็นการทยอยส่งมอบงาน เป็นงวดๆ และทยอยใช้ในแต่ละส่วนต่อเนื่องกันมา ข้อชำรุดบกพร่องบางอย่างอาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน จึงต้องไปตรวจสอบว่าความชำรุดที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้งานหรือเกิดจากการก่อสร้าง แต่อย่างไรก็ตามหลังการส่งมอบงานแล้ว ก็ยังมีข้อผูกพันระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกับผู้รับจ้างเป็นเวลา 2 ปีในการแก้ไขข้อชำรุดบกพร่องได้
ส่วนกรณีที่ศาลปกครองกลางนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กับ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนั้น ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า เป็นคดีเดิมที่บริษัทชิโน-ไทย เคยฟ้องสำนักงานตั้งแต่ ปี 2563 ซึ่งเป็นการฟ้องมาก่อนที่จะมีการรับมอบงานครั้งสุดท้าย แต่ศาลเพิ่งมีกำหนดที่จะเรียกพยานทั้ง 2 ฝ่าย และกำหนดที่จะพิจารณานัดแรกในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ ซึ่งทางสำนักงานฯ ได้ปรึกษากับพนักงานอัยการ เนื่องจากเป็นหน่วยงานของรัฐที่ถูกฟ้อง เพื่อต่อสู้ในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่พูดรับจ้างฟ้องมา ซึ่งมีเหตุผลที่สามารถชี้แจงต่อศาลได้ว่ามีเหตุผลอะไรในการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่า การฟ้องของบริษัทชิโน-ไทย ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้การรับมอบเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมล่าช้า เพราะผู้รับจ้างดำเนินการฟ้องตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเกิดจากการล่าช้าของการส่งมอบงานในช่วงแรก แต่ในช่วงนั้นทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ขยายระยะเวลา ให้กับผู้รับจ้างเช่นกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในข้อต่อสู้ของทางสำนักงานฯ
ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ ยังกล่าวถึงการนำระฆังมาตั้งรับเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารรัฐสภาว่า เนื่องจากนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา คนที่ 2 ได้มี ความคิดว่ามีประชาชนเข้ามาร้องทุกข์ต่อรัฐสภาจำนวนมาก แต่ความจริงแล้วทางสำนักงานฯ มีการเปิดรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ แต่ประชาชนบางคนอยากจะเดินทางมายื่นด้วยตัวเองทั้งรองประธาน คนที่ 2 จึงเห็นว่าควรจะมีห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนตั้งแต่ ประตูทางเข้า จึงได้จัดห้อง บริเวณทางเข้าประตูฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณี สำหรับรับเรื่องราวร้องทุกข์ พร้อมนำระฆังมาตั้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการรับมอบอย่างเป็นทางการจึงยังไม่มีการใช้งาน ส่วนนายพิเชษฐ์ จะเดินทางมาเปิดใช้ด้วยตัวเองหรือไม่ คงต้องรอการประสานจากรองประธานสภาฯอีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย