fbpx

“กองทุนอินโนเวชั่นวัน” ของ ส.อ.ท.​ 1 ปี หนุน 360 ล้าน ยกระดับสตาร์ทอัพ

กรุงเทพฯ​ 14 ส.ค.​ – ส.อ.ท. เผย ครบรอบ 1 ปีโครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” (Innovation ONE) หนุนเงินกว่า​ 360​ ล้าน​บาท ในการยกระดับ​สตาร์​ทอัพ และ​ผู้​ประกอบการ​ไทยเพิ่มศัก​ยภาพ​การ​แข่งขันในตลาดโลก


สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” (Innovation ONE) มีนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธาน​ โดยกล่าว​ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการนวัตกรรมถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตที่สามารถสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน และสามารถยกระดับภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า โดยกระทรวง อว. มุ่งเน้นการส่งเสริม สนับสนุน สร้างสรรค์นวัตกรรม และผลักดันให้ผู้ประกอบการนวัตกรรมมีความแข็งแกร่ง มุ่งสู่การพัฒนาประเทศให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ในการเข้าถึงตลาดในภาคอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการจะได้ลูกค้าแล้ว ลูกค้า คือ ภาคอุตสาหกรรม ก็จะมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นจากนวัตกรรมของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการด้วย

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. กล่าว​ว่า​โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในกรอบงบประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับการดำเนินการระยะเวลา 3 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการนวัตกรรมทั้งที่เป็นสตาร์ทอัพและ SMEs ให้เติบโตด้วยการนำงานวิจัยและความคิดสร้างสรรค์ไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้อย่างยั่งยืน อันนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยในภูมิภาค


ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล กล่าวว่า คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) มีหน้าที่กำหนดทิศทางและบริหารกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการนำวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ไปใช้ขับเคลื่อนประเทศ และเพื่อทดลองรูปแบบการบริหารทุนวิจัยโดยภาคเอกชนและเกิดการระดมทุนจากภาคเอกชนสมทบ กสว. จึงจัดสรรงบประมาณในกรอบ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ภายใต้โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการสามารถได้รับการสนับสนุนทุนจากกองทุน ววน. เพื่อใช้ในการพัฒนาหรือประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และมี ส.อ.ท. ทำหน้าที่บริหารจัดการและระดมทุนจากเอกชนเข้ามาในโครงการ โดยมีเป้าหมายในการสร้างกลไกและสนับสนุนให้เกิดการนำนวัตกรรมของสตาร์ทอัพ ไปยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SME โดยมี ส.อ.ท. เป็นผู้เชื่อมให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสตาร์ทอัพกับ SME ขึ้น ซึ่งกลไกการทำงานที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ คือ การบริหารจัดการโดยเอกชนเป็นผู้นำ ภาครัฐเป็นส่วนสนับสนุน เพราะภาคเอกชนเข้าใจโจทย์และความต้องการนวัตกรรมที่ใช้ตลาดเป็นตัวตั้ง มีการประเมินความเป็นไปได้ของนวัตกรรมโดยนักธุรกิจ และมีการบริหารจัดการที่คล่องตัว

สำหรับ​ 1 ปีที่ผ่านมา โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” ได้ร่วมกับ VC Partners ภาคเอกชน 4 ราย ได้แก่ บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) และบริษัท ออริกจิน เวนเจอร์ส จำกัด ในการสนับสนุนทุนแก่ผู้ประกอบการสายนวัตกรรมทั้งที่เป็นสตาร์ทอัพและ SMEs ซึ่งเราได้พิจารณาการสนับสนุนทุนให้แก่ผู้ประกอบการมากกว่า 360 ล้านบาท

ในวันนี้ ส.อ.ท.​ ยังลงนามบันทึก​ ความเข้าใจร่วมกับบริษัท​ วิสอัพ​ จำกัดซึ่งซึ่งเป็นผู้ร่วมสนับสนุนทุนรายใหม่ โดยบริษัท วิสอัพ จำกัด จะเข้ามาช่วยยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรม ผ่านการใช้เทคโนโลยีของสตาร์ทอัพไทย


ดร.​วิบูลย์​ รักสาสน์เจริญ​ผล​ กรรมการ​บริหาร​โครงการ“กองทุนอินโนเวชั่นวัน” กล่าว​ว่า​ โครงการไม่เพียงแต่สนับสนุนเงินทุนแก่ผู้ประกอบการสายนวัตกรรมเท่านั้น แต่ได้มอบโอกาสให้กับผู้ประกอบการในการเข้าสู่ตลาด ซึ่งครอบคลุมทั้ง 46 กลุ่มอุตสาหกรรม 11 คลัสเตอร์ ภายใต้การดูแลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบการจะได้มีโอกาสทดลอง ทดสอบ รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีและการทำธุรกิจ รวมถึงได้รับคำแนะนำในการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมและเทคนิคการทำธุรกิจให้สามารถตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” จะดำเนินการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ทั่วทั้ง 5 ภาค เพื่อเพิ่มการเข้าถึงโครงการมากขึ้น และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่ภาคธุรกิจสตาร์ทอัพและ SMEs ไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.​ -512-สำนักข่าว​ไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ไทยเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีกระลอก

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน