สว.ใหม่แสดงตน 2 วัน เกือบครบ เหลืออีก 14 คน

รัฐสภา 12 ก.ค.- สว.ใหม่แสดงตน 2 วัน 186 คน เหลือ 14 คน เปิดสิทธิประโยชน์ เงินเดือนร่วมแสนบาท เบี้ยเลี้ยง-ค่าประชุม กมธ. ต่อครั้งพันห้า เบิกค่าตั๋วเครื่องบินระดับผู้บริหารได้ เบิกจ่ายค่าผ่าคลอดบุตรได้ 4 หมื่น


ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารรัฐสภาถึงบรรยากาศการเข้าแสดงตนของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ใหม่ ต่อสำนักงานเลขาธิการุวุฒิสภา ในวันนี้ (12 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่เปิดให้แสดงตน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผู้มาแสดงตน รวม 2 วันจำนวน 186 คนเหลือเพียง สว.กลุ่มอิสระ หรือสว. พันธุ์ใหม่ ประมาณ 10 กว่าคน ที่คาดว่าน่าจะมาแสดงตนในวันจันทร์ (15 ก.ค. 67) ซึ่งเป็นวันสุดท้าย

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ สว.ใหม่ จะได้รับอ้างอิงจากสำนักการคลังและงบประมาณ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งเงินประจำตำแหน่งของประธานวุฒิสภาจะได้รับเดือนละ 74,420 บาท เงินเพิ่มเดือนละ 45,500 บาท รวมเดือนละ 119,920 บาท โดยนับตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง


ขณะที่รองประธานวุฒิสภา ได้เงินเดือนประจำตำแหน่ง 73,240 บาท เงินเพิ่ม 42,500 บาท รวมเดือนละ 115,740 บาท ส่วน สว. ได้เงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 71,320 บาท เงินเพิ่ม 42,330 บาท รวมเดือนละ 113,560 บาท

ในส่วนของค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าประชุม คณะกรรมาธิการสามัญและกรรมาธิการวิสามัญได้รับเป็นรายครั้ง เฉพาะที่มาประชุมครั้งละ 1,500 บาท คณะอนุกรรมาธิการสามัญและวิสามัญ ได้รับเป็นรายครั้ง เฉพาะที่มาประชุมครั้งละ 800 บาท ซึ่งกำหนดให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวในหนึ่งวัน และหากมีคณะอื่นด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมด้วยในวันนั้นไม่เกิน 2 ครั้ง

นอกจากนี้ สว. ยังมีสิทธิ์ในการเบิกค่ายานพาหนะ กรณีเดินทางครั้งแรก เพื่อมารับหน้าที่ในวันปฏิญาณตน หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ได้รับเงินค่าเดินทาง (ค่าน้ำมัน) อัตรากิโลเมตรละ 4 บาท ส่วนเดินทางโดยรถไฟ รถยนต์ประจำทาง (บขส.) และเครื่องบิน สามารถแบ่งจ่ายตามจริงได้ โดยไม่สามารถให้ผู้อื่นใช้สิทธิ์แทนได้ แต่สำหรับเดินทางโดยรถไฟ สามารถมีผู้ติดตามได้ 1 คน ต้องเลือกจองวันเวลาและชั้นเดียวกัน ซึ่งค่าตั๋วเครื่องบิน สามารถนั่งได้ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงผู้บริหารภาคส่วน


ส่วนสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล ของราชการและเอกชน มีค่าตรวจสุขภาพประจำปี ไม่เกิน 7,000 บาทต่อปี ค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคต่อครั้งไม่เกิน 4,000 บาท กรณีการรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน จะได้รับค่าห้องและค่าอาหารไม่เกิน 31 วันต่อครั้งที่ 4,000 บาท ค่าห้องไอซียู สูงสุด 7 วันต่อครั้ง ไม่เกิน 10,000 บาท ค่ารักษาทั่วไปต่อครั้งไม่เกิน 100,000 บาท และค่าผ่าตัดต่อครั้งไม่เกิน 120,000 บาท กรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน ไม่เกิน 20,000 บาทต่อครั้ง

สำหรับการลาคลอดบุตร หากคลอดธรรมชาติ สามารถเบิกจ่ายได้ไม่เกิน 20,000 บาท คลอดโดยการผ่าตัดไม่เกิน 40,000 บาท และมีสิทธิ์ในการรักษาทันตกรรมต่อปีไม่เกิน 5,000 บาท .-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง