นครนายก 10 ก.ค. – กรณีเด็กวัยเพียง 1 ขวบ 9 เดือน ถูกสามีของพี่เลี้ยงทำร้ายและขืนใจ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดหนูน้อยเคราะห์ร้ายเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ญาติยังติดใจ เชื่อภรรยาของผู้ต้องหาอาจมีส่วนรู้เห็นด้วย
ที่โรงพยาบาลนครนายก ครอบครัวของ “น้องเมย์” วัย 1 ขวบ 9 เดือน ที่ถูกนายพิชิต อายุ 37 ปี ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน จนอาการโคม่า ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (10 ก.ค.) เดินทางมารับศพด้วยความโศกเศร้า
ญาติที่มาเฝ้าตั้งแต่น้องเมย์เข้าโรงพยาบาล และเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง นำร่างของน้องเมย์ส่งต่อไปที่โรงพยาบาล มศว.องครักษ์ เพื่อผ่าชันสูตรศพอีกครั้ง เพราะยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึงรอยเล็บบนใบหน้าของน้อง โดยสงสัยว่าอาจมีคนร่วมกันทำร้ายน้อง นอกเหนือจากนายพิชิหรือไม่
ด้านนายชวินบุตร อายุ 18 ปี พ่อของน้องเมย์ ระบุว่า ได้รับข่าวร้ายจากโรงพยาบาลประมาณช่วงประมาณตี 5 กว่าๆ ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่าน้องเมย์เสียชีวิตแล้ว ช่วงเช้าญาติจึงรีบเดินทางไปรับศพน้องที่โรงพยาบาลนครนายก เพื่อส่งตัวมาชันสูตรที่โรงพยาบาล มศว.องครักษ์ ตอนนี้พอทราบการเสียชีวิตของน้อง อยากให้ทางตำรวจเพิ่มข้อหากับนายพิชิต จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับครอบครัวคนอื่นอีก
น.ส.ศรีไพร ภรรยาของนายพิชิต หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องเมย์ ได้บันทึกข้อความแสดงความเสียใจส่งมาให้ทางญาติผู้เสียหาย พร้อมขอโทษและให้กฎหมายจัดการกับนายพิชิต และยังวอนขอให้ญาติของผู้เสียหาย อย่าเอาผิดกับตนและลูก ซึ่งเคยถูกนายพิชิตทำร้ายมาเช่นกัน
ด้านแพทย์โรงพยาบาล มศว.องครักษ์ เผยผลชันสูตรศพน้องเมย์ พบว่าถูกตีด้วยของแข็งอย่างแรง ส่วนอวัยะเพศมีร่องรอยช้ำ แต่ภายในไม่ฉีกขาด หลังจากผ่าชันสูตรเสร็จเมื่อเวลา 12.00 น. ทางโรงพยาบาลได้ส่งมอบศพน้องให้กับครอบครัวนำไปจัดพิธีทางศาสนาต่อไป โดยในส่วนศพนั้นจะนำไปตั้งที่วัดสว่างอารมณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ซึ่งจะสวดพระอภิธรรมศพ 5 คืน โดยมีกำหนดการรดน้ำศพในวันนี้ (10 ก.ค.) เวลา 17.00 น.
ครอบครัวน้องเมย์ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากนำร่างน้องไปถึงวัดเรียบร้อยแล้วจะเดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวน สภ.องครักษ์ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับทุกคนที่มีส่วนรู้เห็น ยืนยันว่าจะไม่ยอมความใดๆ แม้ทางภรรยาของผู้ก่อเหตุจะพยายามติดต่อมาขอโทษ และขอให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว
สำหรับนายพิชิต ผู้ต้องหาในคดี เมื่อวานนี้ถูกพนักงานสอบสวน สภ.องครักษ์ คุมตัวไปฝากขังผัดแรก เนื่องจากสำนวนในคดียังไม่เสร็จสิ้น โดยระหว่างควบคุมตัวนายพิชิตมาขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าก่อเหตุจริงหรือไม่ นายพิชิตตอบเพียงสั้นๆ ว่าตนไม่ได้ทำ และยังยืนยันว่าน้องตกบันไดเอง
ขณะที่ พ.ต.ท.พงษ์สันต์ ชัยพันธ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.องครักษ์ ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ และยังยืนยันว่าเด็กตกบันไดเอง ซึ่งจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เกิดเหตุรวบรวมหลักฐาน ไม่ปรากฏว่ามีบันไดบ้านแต่อย่างใด มีเพียงตัวบ้านที่ยกสูงจากพื้นประมาณ 50 ซม. ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าหากตกลงมาจะทำให้เด็กอาการสาหัสขนาดนี้
จากการให้เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพสอบปากคำลูกสาว และลูกชายของผู้ต้องหา ยืนยันว่าเห็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเด็กจริง แต่ผู้ต้องหายังอ้างว่ามีตีน้องบ้างนิดหน่อย โดยใช้มือ แต่ไม่ได้ใช้ไม้หรืออาวุธใดๆ ตีเด็ก และหลังจากล่าสุดน้องเสียชีวิตแล้ว พนักงานสอบสวนจะขอเบิกตัวผู้ต้องหาจากศาล เพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติมและตั้งข้อหาเพิ่ม คือ ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
สุดเศร้า ญาติ-ประชาชนร่วมพิธีรดน้ำศพ
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา บรรยากาศที่วัดสว่างอารมณ์ ต.องครักษ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก มีการจัดพิธีรดน้ำศพ หนูน้อยเคราะห์ร้าย ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติๆ และผู้คนที่รับรู้เรื่องราว ทุกคนยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพูดถึงคนก่อเหตุว่าไม่สมควรอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป เพราะเด็กไร้เดียงสาขนาดนี้ยังทำกันได้ลงคอ
ด้าน ดร.บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้ส่งพวงหรีดมาร่วมแสดงความเสียใจ และช่วยเงินค่าจัดงานงานศพทั้ง 5 คืน และหากมีปัญหาด้านคดีความพร้อมส่งทนายความเข้าช่วยเหลือในทันที.-สำนักข่าวไทย