ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงสินเชื่อธนาคารปีนี้โตร้อยละ 4

กรุงเทพฯ  26 ส.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงประมาณการสินเชื่อธนาคารปีนี้ร้อยละ 4 แม้เดือน ก.ค.หดตัวลงจากการชำระคืนหนี้ของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง  


บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาพรวมสินเชื่อสุทธิเดือนกรกฎาคม 2560 ปรับตัวลงจากเดือนก่อน 85,000 ล้านบาท เป็น 10.68 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 0.79  โดยหดตัวลงในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 อันดับแรก ตามการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อภาคธุรกิจ สินเชื่อภาครัฐ และสินเชื่อเอสเอ็มอี ขณะที่สินเชื่อรายย่อยปรับตัวดีขึ้นหลายผลิตภัณฑ์ นำโดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหม่ สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล แม้ว่าจะยังมีผลกระทบของการชำระคืนหนี้สินเชื่อเช่าซื้อที่ค่อนข้างมากจากโครงการรถคันแรก ทำให้มีผลลบต่อยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์บางแห่งก็ตาม

อย่างไรก็ตาม แม้เริ่มเดือนแรกของครึ่งปีหลัง สินเชื่อจะหดตัวลงค่อนข้างแรง แต่ด้วยแรงส่งเศรษฐกิจที่น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณช่วงท้ายปี และมาตรการสนับสนุนสินเชื่อเอสเอ็มอีของภาครัฐที่ส่งสัญญาณเชิงรุกมากขึ้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ายังมีสัญญาณที่ดีจากสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยอื่น ๆ น่าจะเริ่มมีทิศทางดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ทำให้ภาพรวมยังคงประมาณการสินเชื่อปีนี้ที่ร้อยละ 4


ส่วนภาพรวมเงินฝากเดือนกรกฎาคม 2560 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนเพียง 15,000 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 0.13 แต่เมื่อเทียบกับภาพรวมสินเชื่อแล้วเงินฝากยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่าสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของเงินฝากยังดำเนินไปควบคู่กับการปรับโครงสร้างเงินฝากเพื่อบริหารจัดการต้นทุน โดยเป็นการเพิ่มของเงินฝากประเภทกระแสรายวัน และออมทรัพย์เป็นหลัก ขณะที่สัดส่วนเงินฝากประจำยังคงลดลงต่อเนื่อง  ทั้งนี้ เงินฝากที่เพิ่มขึ้นในเดือนนี้ มาจากการระดมเงินฝากของกลุ่มธนาคารขนาดกลางและเล็ก เพื่อรองรับการไถ่ถอนหุ้นกู้ระยะถัดไปและรักษาสภาพคล่องของตน ขณะที่กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่มียอดเงินฝากลดลง แม้ยังมีเงินฝากภาครัฐไหลเข้าจำนวนมากก็ตาม ส่วนช่วงที่เหลือของปีคาดว่าธนาคารพาณิชย์จะยังเน้นการประคองระดับเงินฝาก เพื่อบริหารจัดการสภาพคล่องให้อยู่ในระดับเพียงพอกับจังหวะของการปล่อยสินเชื่อควบคู่กับการรักษาความสามารถการทำกำไร ดังนั้น จึงน่าจะทำให้ยังไม่เห็นภาพการแข่งขันด้านราคาของผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษที่รุนแรงระยะนี้.-สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง