ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงจีดีพีปี 67 ที่ 2.6% เหตุน้ำท่วม-เศรษฐกิจหลักชะลอตัว

กรุงเทพฯ 20 ก.ย.- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงประมาณการจีดีพีปี 2567 ที่ 2.6% แม้มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องจับตาปัญหาน้ำท่วม-เศรษฐกิจหลักชะลอตัว ประเมินน้ำท่วมอาจเสียหายสูงถึง 30,000 ล้านบาท คาด กนง.อาจลดดอกเบี้ยปลายปี ชี้หนี้ครัวเรือนยังสูง ส่งผลสินเชื่อแบงก์ปีนี้โตไม่เกิน 1.5%


นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คงอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ 2.6% จากแรงหนุนการฟื้นตัวส่งออก ท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เศรษฐกิจไทยครึ่งหลังของปีจะเติบโตที่สูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก จากการส่งออกและการลงทุน และการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากน้ำท่วมซึ่งประเมินว่าจะมีผลกระทบถึง 20,000 ล้านบาท และอาจจะมากขึ้นถึง 30,000 ล้านบาท หากสถานการณ์เกิดรุนแรงในภาคกลางและภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตร แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงเท่าปี 2554 ขณะที่เศรษฐกิจหลักของโลกที่ชะลอตัว รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลงยังเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า


ด้านอุตสาหกรรมไทย มองว่าจะยังอยู่ท่ามกลางปัญหาน้ำท่วม ค่าเงินบาทผันผวนสูง การแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศ และต้นทุนเพิ่มโดยเฉพาะจากค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งทั้งหมดนี้จะกระทบต่อภาคเกษตร การผลิต และบริการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs สำหรับภาพทั้งปี 2567 ประเมินว่ากลุ่ม รถยนต์ ที่อยู่อาศัย และก่อสร้าง เป็นกลุ่มธุรกิจที่ลำบากจากด้านรายได้ที่หดตัว

​ส่วนภาคการเงินนั้น โจทย์หลักยังคงเป็นเรื่องหนี้สินภาคครัวเรือน 90% ต่อจีดีพี ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า ทำให้การเติบโตสินเชื่อใหม่อยู่ในกรอบที่จำกัดกว่าเดิมมาก โดยสินเชื่อของระบบแบงก์ไทยปีนี้คงโตไม่เกิน 1.5% ท่ามกลางความสามารถในการกู้ยืมของลูกหนี้ที่ลดลง โดยผลสำรวจหนี้สินครัวเรือนประจำไตรมาส 3 ปร 2567 พบว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อรถเคยประสบปัญหาการชำระหนี้ ทำให้ต้องเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงิน ซึ่งปัญหาจะเชื่อมโยงกับการมีรายได้ในระดับไม่สูง มีเงินออมน้อย จึงทำให้อ่อนไหวมากกว่าลูกหนี้กลุ่มอื่นๆ ขณะที่ผลสำรวจครั้งนี้ พบผู้ที่พึ่งพาหนี้นอกระบบ 8.2% ซึ่งต้องการความช่วยเหลือในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ วางแผนทางการเงิน และเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อใหม่ในระบบ นอกเหนือจากการแก้ที่ยั่งยืนด้วยการเพิ่มเสถียรภาพด้านรายได้ให้กับลูกหนี้ควบคู่ไปด้วย

ขณะเดียวกันภาครัฐก็ต้องมีมาตรการเพิ่มรายได้ การเข้าถึงสินเชื่อของประชาชน เพื่อช่วยลดหนี้สิน รวมทั้งภาครัฐต้องมีนโยบายเข้ามาเพิ่มจีดีพีให้เติบโตขึ้น โดยการปลดล็อกข้อกฎหมายที่ซับซ้อน เพื่อเอื้อให้ภาคธุรกิจสามารถแข็งขันได้ ช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศ ถือเป็นการแก้หนี้อย่างยั่งยืน


ขณะที่ประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ต่อวัน หากสามารถดำเนินการได้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ นายบุรินทร์ ระบุว่า ธุรกิจที่ใช้จำนวนแรงงานมากจะเดินต่อไปไม่ได้ ในหลายกลุ่มธุรกิจจึงไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ อย่างไรก็ตาม จะเห็นการผลักดันให้ ภาคธุรกิจหันไปใช้เครื่องจักรมากขึ้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน

ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ได้ลดดอกเบี้ย 0.5% มากกว่าที่คาดไว้ และได้ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2% ภายในปี 2569 เป็นการเริ่มต้นของวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ช่วงปลายปี 2567 แต่ก็ยังไม่เห็นสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยจากจาก ธปท.

ทั้งนี้ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในโลก ควบคู่กับทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกในขาลง คาดว่าจะส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างทองคำได้รับแรงหนุน ซึ่งที่ผ่านมาทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักถึงความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากช่วงโควิด ดังนั้น จึงยังต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน และกระจายความเสี่ยงให้ดีด้วย​

ส่วนทางเศรษฐกิจจีน มีโอกาสขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 5% ในปี 2567 จากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่สิ้นสุด และรัฐบาลจีนยังไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่างชัดเจน รวมถึงยังเผชิญการกีดกันทางการค้าจีนจากทางตะวันตก

สำหรับยุโรป เศรษฐกิจเยอรมนียังส่งสัญญาณความเปราะบาง รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับภาคธุรกิจในยุโรปเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะต้องจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพราะจะส่งผลต่อนโยบายการค้าการลงทุนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”