รื้อบ้านขุดหาตะเคียนเจอแต่ตอไม้ยูคาลิปตัส

กำแพงเพชร 25 ส.ค.-เจ้าของบ้านยังเชื่อมีเจ้าแม่ตะเคียนอยู่ทำการขุดแต่ยังไม่พบ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สั่งห้ามเรี่ยไรและเชิญร่างทรงไปพูดคุยสอบพฤติกรรมเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่


วันที่ 25 สิงหาคม 2560 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามความคืบหน้ากรณีเจ้าของบ้านมีความเชื่อว่ามีต้นตะเคียนอยู่ใต้พื้นดินกลางบ้าน และมีพญานาคเฝ้าอยู่ 2 ตัวภายหลังได้ใช้รถแบคโฮรื้อบ้านปูนชั้นเดียว สองห้องนอนทิ้ง โดยตั้งโต๊ะบวงสรวงอาหารหวานคาวและใช้เวลาขุดดินกลางบ้านตั้งแต่เที่ยงของเมื่อวานนี้ และได้ยุติการขุดเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยไม่พบต้นตะเคียนตามที่เชื่อ พบแต่เพียงตอไม้ยูคาลิปตัส โดยเหตุเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 51/1 บ้านหนองศรีไพรัตน์ ตำบลวังตะแบก อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนหลายร้อยคนที่มาเฝ้าดูและเฝ้ารอเลขเด็ด

ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ นายจำรวน มุกดาอายุ 44 ปีและนางทองปิ่น มุกดาอายุ 40 ปีสองสามีภรรยา ได้ย้ายพื้นที่ในการขุดค้นหาต้นตะเคียนไปขุดที่ริมสระน้ำสาธารณะของหมู่บ้านบริเวณที่ขุดเป็นอ่างสระน้ำขนาดเล็ก มีความกว้างประมาณ 10 เมตร มีความลึกประมาณ 4 เมตรโดยมีนางสาวเมาส์อายุ 30 ปี ร่างทรงได้เดินทางมาร่วมในการขุดหาต้นตะเคียนเจ้าแม่ในวันนี้ด้วย


เบื้องต้นเปิดเผยว่านางทองปิ่น เจ้าของบ้านได้ขอคำปรึกษา เนื่องจากฝันว่ามีเจ้าแม่ตะเคียน และพญานาคอยู่บริเวณบ้านโดยสามารถสัมผัสได้ และพบว่าต้นตะเคียนจมอยู่บริเวณใกล้กับสระน้ำจึงได้เคลื่อนย้ายจากการขุดหาที่กลางบ้าน มาขุดกันที่สระเล็กริมขอบสระน้ำขนาดใหญ่สาธารณะของหมู่บ้าน ห่างจากบ้านจุดขุดเจาะครั้งแรกประมาณ 500 เมตร เบื้องต้นสระดังกล่าวมีความลึกและมีน้ำขัง จึงได้นำพญานาคติดเครื่องยนต์เพื่อสูบน้ำออกจากสระเพื่อที่จะทำการขุดหาต้นตะเคียนการต่อไป นอกจากนี้ชาวบ้านยังร่วมกันเรี่ยไรคนละ 10 บาท 20 บาทเพื่อที่จะไปว่าจ้างรถแบคโฮมาช่วยขุดเพื่อจะเร่งให้พบกับต้นตะเคียนให้เร็วมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางทองปิ่น มุกดา เจ้าของบ้านที่ถูกรื้อทิ้งว่าที่ใต้ดินกลางบ้านขุดไม่พบต้นตะเคียน จะทำการสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยอีกหรือไม่ นางทองปิ่น บอกว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์พญานาคและเจ้าแม่ตะเคียน จะปล่อยให้เป็นพื้นที่ว่างเปล่า โดยในเบื้องต้นได้เข้าไปอยู่อาศัยที่บ้านของพ่อแม่ก่อน ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านที่ถูกรื้อทิ้ง ส่วนในอนาคตก็ยังไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่บ้านหลังไหน เพราะยังคงที่จะต้องขุดเจ้าแม่ตะเคียนให้พบก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจหาที่อยู่อาศัยใหม่ต่อไป


ขณะเดียวกันในวันนี้ ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็ยังคงเดินทางมาเกาะติดสถานการณ์กันอย่างเหนียวแน่น ส่งผลให้ร้านค้าที่มาเร่ขายต่างมีรายได้ขายดิบขายดี โดยเฉพาะอาหารเร่งด่วนเช่นลูกชิ้น ไก่ย่าง ข้าวเหนียวส้มตำ และน้ำอัดลมน้ำดื่มเป็นต้น อย่างไรก็ตามการขุดหาต้นตะเคียนก็ยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านที่ทราบข่าวต่างก็ทยอยเดินทางกันมาเฝ้าดูเหตุการณ์ เพื่อเสาะแสวงหาเลขเด็ด เพื่อที่จะนำไปเสี่ยงโชคกันในงวดนี้ 

สำหรับที่มาที่ไปของการรื้อบ้านและขุดหาต้นตะเคียนในครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าของบ้านสองสามีภรรยามีความเชื่อว่าลูกชายอายุ 22 ปี ที่มีร่างกายครบ 32 แต่ว่าประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา กับมีลักษณะเดินเอียงข้างจนร่างกายแทบจะติดกับพื้นดิน มีอาการตาค้าง และน้ำลายฟูมปาก หลังจากที่ฝันและมีความเชื่อเรื่องของพญานาคและต้นตะเคียนและได้ติดตามค้นหา ลูกชายกลับมาเดินได้เกือบเหมือนคนปกติ อาการตาค้างหายไป และน้ำลายฟูมปากก็หายไปด้วย จึงยังจะคงมีความตั้งใจที่จะค้นหาเจ้าแม่ตะเคียนนี้ต่อไป

ล่าสุดเวลา 15.00 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหารรักษาความสงบเรียบร้อยอำเภอพรานกระต่ายได้ เข้าพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ห้ามมีการเรี่ยไร ให้ชาวบ้านเดินทางกลับบ้าน และได้เชิญร่างทรงสาวไปพูดคุยพร้อมตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมและมีประวัติเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”