กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – กบง. ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม LPG ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่ออีก 3 เดือน มีผล 1 ก.ค.-30 ก.ย.67 และให้ส่วนลดค่าน้ำมันผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 120 บาท/คน/เดือน รวม 3 เดือน เริ่ม ต.ค.-ธ.ค.2567
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กบง. และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. ซึ่งมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาถึงสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ของตลาดโลกรวมถึงสถานะกองทุนน้ำมัน โดยที่ประชุมได้มีมติให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซ LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 และให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป
นายวีรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินในประเทศปรับตัวสูงขึ้น มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 จึงมีความจำเป็นในการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมัน ลดภาระค่าครองชีพ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มศักยภาพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กบง.จึงได้มีมติเห็นชอบในหลักการ “มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานหารือกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอเรื่องขออนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรี โดยรูปแบบจะให้สิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมัน 120 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณารายละเอียดมาตรการฯ ตามขั้นตอน ข้อกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาสัมพันธ์รายละเอียดความคืบหน้าเพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทราบโดยทั่วกัน
“สาเหตุที่ตรึงราคา LPG เนื่องจากแม้ขณะนี้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะติดลบถึง 110,743 ล้านบาท แต่หากแยกบัญชีน้ำมันออกจะพบว่า เฉพาะบัญชี LPG มีเงินไหลเข้ามากกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน จึงสามารถตรึงราคาต่อไปได้ ส่วนแนวทางการดูแลราคาน้ำมันดีเซล หลังครบกำหนด ตรึงราคา 33 บาท/ลิตร ในวันที่ 31 กรกฏาคม 2567 วันนี้ยังไม่ได้มีการหารือในที่ประชุม กบง. ส่วนการช่วยเหลือผู้ถือบัตร สวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านคน ถือเป็นการลดค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย ซึ่งช่วง เม.ย.-มิ.ย.67 ได้ให้วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ในการประชุมวันนี้ที่ประชุมจึงเสนอให้ส่วนลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อช่วยเหลือกลุ่มนี้ เดือนละ 120 บาท สามารถใช้ได้ทั้งดีเซลและเบนซิน ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ให้ส่วนลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยคาดว่าจะต้องใช้งบกลางกว่า 6 พันล้านบาท” นายวีรพัฒน์ กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย